โดย Dred Scott v. Sandford
คดี Dred Scott v. Sandford, 60 U.S. 393 (1857) เป็นคดีที่ถือได้ว่าเป็นหมุ ดหมายสำคัญของประวัติศาสตร์ กระบวนการยุติธรรมของสหรัฐอ เมริกา เมื่อเดร็ด สก็อต ทาสผิวดำชาวเวอร์จิเนีย ได้เดินทางร่วมกับศัลยแพทย์ จอห์น เอเมอร์สันไปยังรัฐอิลลินอย ส์ และต่อมายังวิสคอนซิน ซึ่งเป็นรัฐที่ห้ามมีทาสตาม รัฐธรรมนูญของมลรัฐและสนธิสัญญาระหว่างรัฐ
ต่อมา เดร็ด สก็อต ได้แต่งงานกับแฮเรียต โรบินสัน ซึ่งเป็นทาสที่นพ.เอเมอร์สั นซื้อมาขณะปฏิบัติหน้าที่เช่นกัน ทั้งคู่มีลูกซึ่งตามกฎหมายม ลรัฐต้องเป็นอิสรชน แต่ครอบครัวเอเมอร์สันรวมถึ งภริยา ปฏิเสธจะไถ่อิสรภาพของครอบค รัวสก็อตให้เป็นไท รวมถึงการกระทำของ นพ.เอเมอร์สันได้ละเมิดรัฐธ รรมนูญ กฎบัตร และสนธิสัญญาหลายฉบับที่ห้า มมีทาสในรัฐเขตเหนือ
เดร็ด สก็อต จึงฟ้องต่อคุณนายเอลิซ่า แซนด์ฟอร์ด ภริยาของ นพ.เอเมอร์สัน ภายหลังนพ.เอเมอร์สันตายที่ ไอโอวา เพื่อเรียกร้องอิสรภาพของพว กเขา
คดีนี้สู้กันยาว จนเรื่องส่งไปถึงศาลสูงสุดแ ห่งสหรัฐอเมริกา เนื่องจากคุณนายแซนด์ฟอร์ดเ ป็นประชากรรัฐนิวยอร์ค จึงเกิดปัญหากฎหมายขัดกันขอ งมลรัฐ
ศาลสูงสุดแห่งสหรัฐวินิจฉัย ด้วยมติ 7-2 เสียงว่า ทาสไม่มีสิทธิเป็นพลเมือง จึงไม่มีสิทธิฟ้องร้องในศาล
ในคำวินิจฉัยของศาลยังให้คว ามเห็นต่อว่า หากทาสมีสิทธิเป็นพลเมืองแล้ว ชนเผ่านิโกรย่อมมีสิทธิเสรี ภาพในการเดินทาง การประกอบอาชีพ ไปจนถึงการถือครองอาวุธ จึงเป็นอันตราย จะให้มีสิทธิไม่ได้
ในคำวินิจฉัย สะกดชื่อคุณนายแซนด์ฟอร์ดผิ ดด้วยความเร่งรีบทำคำวินิจฉัย ภายใต้การกดดันของประธานาธิ บดี เจมส์ บูคานัน ที่ต้องการให้ปัญหาทาสจบลงเ ร็วที่สุด เพื่อผลทางการเมืองของตน
คำวินิจฉัยดังกล่าวยังล่วงล ะเมิดอำนาจของรัฐสภาคองเกรส ตามรัฐบัญญัติปรองดองแห่งมิ สซูรี (Missouri Compromise Act) ที่ห้ามการมีทาสในรัฐตอนเหนืออีกด้วย โดยการประกาศว่ารัฐบัญญัติดังกล่าวขัดรัฐธรรมนูญ
:: ผลกระทบของคำวินิจฉัยนี้ ::
สถาบันศาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ อย่างรุนแรง ทั้งละเมิดสิทธิ ความเป็นคน และละเมิดอำนาจนิติบัญญัติข องรัฐสภา ละเมิดรัฐธรรมนูญของมลรัฐ สื่อมวลชนและนักวิชาการไม่เ ห็นด้วยกับคำวินิจฉัยนี้อย่ างกว้างขวาง ประชาชนถึงขั้นไม่เชื่อถือใ นความยุติธรรม และสุดท้าย เมื่อความยุติธรรมหาไม่ได้จ ากระบบตุลาการอันควรเป็นที่ พึ่งสุดท้าย สหรัฐอเมริกาก็ก้าวสู่สงครา มกลางเมือง
ทหารและพลเรือนทั้งฝ่ายเหนื อและฝ่ายใต้เสียชีวิตราวหกแ สนคน
เดร็ด สก็อต เจ้าของคดี หลังจากแพ้คดีก็ต้องกลับไปเ ป็นทาส และตายด้วยวัณโรค ใน 17 เดือนต่อมาก่อนจะได้เห็นสหรัฐอเมริกาในสงครามกลางเมือง และการเลิกทาส
ส่วนตุลาการคนเขียนคำวินิจฉัย ประธานศาลสูงสุด ผู้พิพากษาโรเจอร์บี ทานีย์ ก็ถึงแก่อนิจกรรมอย่างยากจน และอดอยากเพราะที่ดินถูกภัย สงครามเผาผลาญและยึดครองในวัย 84 ปี วันเดียวกับที่รัฐแมรีแลนด์ บ้านเกิดของเขา ประกาศปลดปล่อยทาส
คำวินิจฉัยนี้เป็นบทเรียนแล ะนำมาสู่การปฏิรูประบอบตุลา การในภายหลัง และในที่สุดคำวินิจฉัยนี้ก็ ถูกลบล้างไป ด้วยรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 13 14 และ 15 หลังสงครามกลางเมือง
ธีรภัทร เจริญสุข
-----------------------
สนใจอ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์หอสมุดรัฐสภาแห่งสห รัฐอเมริกา http://www.loc.gov/rr/ program/bib/ourdocs/ DredScott.html
ต่อมา เดร็ด สก็อต ได้แต่งงานกับแฮเรียต โรบินสัน ซึ่งเป็นทาสที่นพ.เอเมอร์สั
เดร็ด สก็อต จึงฟ้องต่อคุณนายเอลิซ่า แซนด์ฟอร์ด ภริยาของ นพ.เอเมอร์สัน ภายหลังนพ.เอเมอร์สันตายที่
คดีนี้สู้กันยาว จนเรื่องส่งไปถึงศาลสูงสุดแ
ศาลสูงสุดแห่งสหรัฐวินิจฉัย
ในคำวินิจฉัยของศาลยังให้คว
ในคำวินิจฉัย สะกดชื่อคุณนายแซนด์ฟอร์ดผิ
คำวินิจฉัยดังกล่าวยังล่วงล
:: ผลกระทบของคำวินิจฉัยนี้ ::
สถาบันศาลถูกวิพากษ์วิจารณ์
ทหารและพลเรือนทั้งฝ่ายเหนื
เดร็ด สก็อต เจ้าของคดี หลังจากแพ้คดีก็ต้องกลับไปเ
ส่วนตุลาการคนเขียนคำวินิจฉัย ประธานศาลสูงสุด ผู้พิพากษาโรเจอร์บี ทานีย์ ก็ถึงแก่อนิจกรรมอย่างยากจน
คำวินิจฉัยนี้เป็นบทเรียนแล
ธีรภัทร เจริญสุข
-----------------------
สนใจอ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น