หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ใครเลีย คณะเผด็จการบ้าง?

ใครเลีย คณะเผด็จการบ้าง? 

 

 


ใน คณะที่พลเมืองผู้รักประชาธิปไตยจำนวนมาก กล้าออกมาคัดค้านและแสดงความไม่พอใจกับการทำลายประชาธิปไตยของ “คณะสัตว์ชั่ว” คสช. จนหลายคนโดนเรียกไปรายงานตัว และบางคนติดคุก ผมได้สำรรวจแถลงการณ์ต่างๆ ในเวป์ประชาไทหลังรัฐประหาร เพื่อดูว่าใครอวยทหารบ้าง

กลุ่มที่ออกแถลงการณ์คัดค้านรัฐประหาร100%โดยไม่มีเงื่อนไข มีดังนี้ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, พีมูฟ  + YPD, เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง (คปสม.), พรรคสามัญชน, สมัชชาคนจน, สหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน, เครือข่ายสลัม 4 ภาค, กลุ่มบัณฑิตอาสาสมัครปกป้องประชาธิปไตย, สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย, และคณะบุคคล ประกอบด้วย โคทม อารียา กับคนอื่น
และอย่าลืมว่ามีหลายกลุ่มคนที่ไม่ได้ออกแถลงการณ์แต่ออกมาต้านรัฐประหารเป็นรูปธรรมแทน


กลุ่ม ที่อวยทหารแบบเนียนๆ ประกอบไปด้วยพวกเอ็นจีโอคือ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) โดยมีการปิดหูปิดตาถึงการปล้นประชาธิปไตย และ เรียกร้องให้ คสช. กำกับหน่วยงานของรัฐมิให้ “ฉวยโอกาส” ผลักดันโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ซึ่งเป็นมุมมองที่ตรงกับศาลเตี้ยรัฐธรรมนูญที่คัดค้านรถไฟความเร็วสูง และเป็นการคิดแบบแยกส่วนปัญญาอ่อน

เอ็นจีโอพวกนี้คงต้องการให้สังคมไทยด้อยพัฒนา และต้องการให้พลเมืองต้องพึ่งกุศลจาก เอ็นจีโอ
ที่ แย่ที่สุดคือ กป.อพช. แถลงว่า “สถาบัน องค์กรและกลุ่มพลังทางการเมืองที่ร่วมในความขัดแย้ง ล้วนมีส่วนทำให้วิกฤติการเมืองเข้าสู่ภาวะตีบตัน” ซึ่งเป็นการแก้ตัวแทนทหารที่ยึดอำนาจโดยอ้างว่าต้องสร้างความสงบ และโทษผู้ที่ต้องการรัฐบาลเลือกตั้ง ว่ามีส่วนทำร้ายบ้านเมืองพอๆ กับม็อบอันธพาลของสุเทพ มันเป็นการขู่เราว่า ถ้าเราออกมาปกป้องประชาธิปไตย มันจะนำไปสู่รัฐประหาร

อีกกลุ่ม หนึ่งที่สนับสนุนรัฐประหารแบบเนียนๆ โดยสร้างภาพหลอกลวงว่ารักประชาธิปไตยคือ นักกิจกรรมทางสังคม 11 คน ประกอบด้วย จักรชัย โฉมทองดี, นิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์, วิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ, จะเด็จ เชาวน์วิไล, สุภา ใยเมือง, สุนทรี หัตถี  เซ่งกิ่ง, สามารถ สะกวี, ชูวิทย์ จันทรรส, นิอับดุลฆอร์ฟาร โตะมิง, คำ รณ ชูเดชา และ กรรณิการ์ กิจติเวชกุล ซึ่งออกแถลงการณ์ปฏิเสธการรัฐประหารในนามธรรม แต่ขอให้คืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนไทย “โดยเร็วที่สุด” คือไม่ใช่ทันที และแย่พอๆ กับ กป. อพช. เพราะ ไป “ขอให้ทุกฝ่ายทบทวนว่า การพยายามเอาชนะคะคานกันอย่างเด็ดขาดที่ผ่านมาโดยไม่สนใจความแตกต่างและความ หลากหลายทางความคิด” นำไปสู่วิกฤต พูดง่ายๆ พวกนี้มองว่าการไม่เห็นด้วยกับการล้มการเลือกตั้ง เป็นความ “คับแคบ” ของประชาชนผู้รักประชาธิปไตย

ใน ความจริง สองกลุ่มเอ็นจีโอดังกล่าวนี้ มีประวัติอันยาวนานในการเข้ากับเสื้อเหลืองบ้าง กวักมือเรียกรัฐประหาร ๑๙ กันยาบ้าง และ “เป็นห่วง” ผู้ชุมนุมสลิ่ม ในขณะที่เพิกเฉยต่อการเข่นฆ่าเสื้อแดงโดยประยุทธ์กับอภิสิทธิ์

นอก จากนี้ ก่อนที่รัฐประหารจะเกิดขึ้นรอบนี้ นักเอ็นจีโอหลายคน ได้ออกมา “เตือนถึงภัยสงครามกลางเมือง” โดยเรียกร้องให้ยิ่งลักษณ์ประนีประนอมกับม็อบสุเทพฯ ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่คำแก้ตัวของทหารในการยึดอำนาจ

เอ็น จีโอพวกนี้ไม่ชอบระบบการลงคะแนนเสียง ทั้งในองค์กรของตนเอง และในสังคมโดยทั่วไป พร้อมกันนั้นเขามองว่าคนที่ลงคะแนนเสียงให้ไทยรักไทย หรือเพื่อไทย ถูกซื้อและโง่
เขา มองว่ารัฐไม่ควรลงทุนสนับสนุนชีวิตของพลเมือง และมองว่าตนมีหน้าที่ต่อสายไปลอบบี้ผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการหรือมาจากการเลือกตั้ง

พวก เอ็นจีโอเหล่านี้ และองค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(หมา) ก็เงียบสนิท เรื่องการที่ทหารเรียกพลเมืองผู้รักประชาธิปไตยไปรายงานตัว และเรื่องการสร้างกระแสความกลัวโดยทหาร

ส่วน กลุ่มสุดท้ายที่ไม่ปกปิดการเลียทหารเผด็จการเลยคือ นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน, ฝูงอธิการบดี, อาจารย์ปฏิกิริยาที่เข้าข้างสลิ่ม และสถาบัน TDRI ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มองโดยทั่วไปว่าการทำรัฐประหารเป็นเรื่องดี และเป็น “โอกาส” ในการ “ปฏิรูป” ประเทศไทย

(ที่มา)
http://redthaisocialist.com/2011-02-22-09-46-04/606-2014-06-07-07-36-44.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น