เปิดคลัง"นิติอาวุธ" พลิก"การเมือง" จับตา"วิกฤต"ก่อตัว
แม้ฝ่ายค้านจะอ่อนล้าไปไม่น้อย จากการขับเคี่ยวกับรัฐบาล ด้วยคดีความที่ตามมาเช็กบิลย้อนหลัง ด้วยศึกในจากในพรรคที่เห็นว่าควรปฏิรูปใหญ่
แต่ดูจากบทบาทในสภา ระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ รายจ่ายปี 2557 ที่ผ่านมา ต้องถือว่า ความตั้งใจในการเขย่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย ยังเข้มข้น
จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่
ศึกงบประมาณที่ผ่านมา ฝ่ายค้านประสบความสำเร็จในการเปิดประเด็นที่รัฐบาลยังตอบไม่ครบถ้วน
ปัญหาการจำนำข้าว ฝ่ายค้านเปิดตัวละครล่าสุด เลขาฯรมว.พาณิชย์ เป็นตัวเชื่อม เครือข่ายจำนำข้าว
ก่อนจ้วงหมัดเข้าใส่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและ รมว.คลัง โดยยกเอาตัวเลขขาดทุนร่วม 3 แสนล้านบาท มาทวงสัญญาที่นายกิตติรัตน์สมัยเป็นรมว.พาณิชย์เคยกล่าวว่า หากขาดทุนเกิน 6 หมื่นล้าน จะลาออก
หมัดอีกชุด เมื่อฝ่ายค้านพบว่า งบประมาณจัดซื้อรถตู้รับส่งนักเรียน 12 ที่นั่ง เพื่อรองรับการยุบโรงเรียนเล็ก มีราคาถึงคันละ 2 ล้านกว่าบาท เกินราคาในท้องตลาด 1 พันคัน เป็นเงิน 2.3 พันล้านบาท
ขณะที่ทาง รมช.ศธ.ออกมาชี้แจงอุบอิบว่า เกิดความผิดพลาด พิมพ์เอกสารผิด ได้ส่งเอกสารที่แก้ไขให้กับผู้มีหน้าที่รับผิดชอบไปแล้ว แท้จริง รถราคาคันละ 1.2 ล้านบาท 1 พันคัน เท่ากับ 1.3 พันล้านบาท เท่ากับพิมพ์ผิดไป 1 พันล้านบาทเศษ
ปัญหาคือ คำชี้แจงที่ว่า ยังหักล้างข้อสงสัยของฝ่ายค้านไม่ได้และหมัดส่งท้าย คือคำถามเรื่อง ส่วนต่าง การจัดซื้อแท็บเล็ต 320 ล้านบาท ของกระทรวงศึกษาฯ
คำถามเหล่านี้จะติดตัวรัฐบาลไปอีกพักใหญ่ จนกว่าจะพิสูจน์ความจริงได้อย่างจะๆ
ข้อได้เปรียบของประชาธิปัตย์ ได้แก่ ความคล่องแคล่วในการใช้เวทีสภา เปิดประเด็นถล่มรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลเอง มี ขุนพล ที่มีขีดความสามารถอยู่ไม่กี่คน และเลือกเงียบแทนที่จะชี้แจงแบบแลกหมัด
การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2557 ผ่านการพิจารณาของสภา ด้วยคะแนนเสียง 292-155 งดออกเสียง 27 เมื่อบ่ายต้นๆ ของวันที่ 31 พฤษภาคม ก่อนที่เลขาธิการสภาจะอ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุม
สภาพของรัฐบาลในตอนออกจากสภา สะบักสะบอมไม่น้อย
เกมการเมืองลักษณะนี้ หากยังแก้ไม่ตกอย่างหมดจด จะนำไปสู่ค่ายกล คอร์รัปชั่น
อันเป็นข้อหาที่เป็น จุดตาย ของรัฐบาลมาแล้วหลายชุด
ขณะที่ในด้านของศาล และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระต่างๆ สถานการณ์ของรัฐบาลน่าหนักใจ
ล่าสุด ศาลปกครองมีคำสั่งให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้อดีตเลขาฯ นายถวิล เปลี่ยนศรี
โดยระบุว่า การปลดและแต่งตั้ง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ไม่ถูกต้องและรีบร้อนเกินเหตุ
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370137392&grpid=01&catid=&subcatid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น