ทั้งนี้ ประเด็นการประท้วงคัดค้านการทำลายสวนสาธารณะที่เป็นชนวนของความรุนแรงนี้ เป็นแค่ปัญหาเทียบได้กับยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ดำเนินการสร้างสะพานข้ามช่องแคบบอสฟอรัส โดยไม่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยฝ่ายที่คัดค้านชี้ว่าการก่อสร้างดังกล่าวจะทำลายพื้นที่สาธารณะสีเขียว ของประชาชน และไปรับใช้ผลประโยชน์ของธุรกิจเอกชน
"วันนี้เปรียบเสมือนจุดเปลี่ยนสำหรับพรรคเอเคพี
(พรรคความยุติธรรมและการพัฒนา)" โคเรย์ คาลิสกาน
นักรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยบอสฟอรัส กล่าว
"เออร์โดนแกนนั้นมีความมั่นใจมากและเป็นนักการเมืองอำนาจนิยมมาก
และเขาก็ไม่ฟังใครแล้วทั้งนั้น แต่เขาต้องเข้าใจว่าตุรกีไม่ใช่ราชอาณาจักร
และเขาไม่สามารถบริหารประเทศจากเมืองอังการาด้วยตัวของเขาเองคนเดียวได้"
อูกูร์ ทันเยลี นักประวัติศาสตร์ด้านสถาปัตยกรรมกล่าวว่า
"ปัญหาที่แท้จริงแล้วไม่ใช่ที่จตุรัสตักซิมและไม่ใช่สวนสาธารณะ
แต่มันคือการขาดการมีส่วนร่วมการตัดสินใจที่เป็นประชาธิปไตย
รวมถึงการขาดฉันทามติอย่างมาก
ตอนนี้เรามีนายกรัฐมนตรีที่เขาจะทำอะไรก็ได้ที่เขาอยากทำ"
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/06/47006
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น