มาคุย “ปฏิรูป” กันเถิด (1) แก้ความเหลื่อมล้ำ
รายงานขององค์กรอ็อกซ์แฟมระบุว่า
กลุ่มคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 85 คน สามารถรวบรวมความมั่งคั่งได้อย่างมหาศาล
เทียบกับประชากรยากจนของโลกรวมกัน 3,500
ล้านคน โดยกลุ่มคนร่ำรวยร้อยละ 1 ของโลกมีทรัพย์สินอยู่มากถึง 110 ล้านล้านดอลลาร์
(ราว 3,600
ล้านล้านบาท) ซึ่งมากกว่าประชากรยากจนที่สุดครึ่งหนึ่งของโลก 65 เท่า
เศรษฐีจำนวนมากมาจากสหรัฐและประเทศพัฒนา
สหรัฐอเมริกามีผลิตภัณฑ์มวลรวม
GDP = 16.2 ล้านล้าน$
ไทยมีผลิตภัณฑ์มวลรวม
GDP= 0.4 ล้านล้าน$
ทั้งๆ ที่ประเทศไทยยังไม่พัฒนาเท่าหลายประเทศในตะวันตก
แต่เศรษฐีไทย 3 คนติดอันดับ 85 ของโลกตามข้อมูลของ Forbes
1. คนแรก อันดับ 8 ทรัพย์สิน 44.24 พันล้าน$
2. คนที่สอง นายธนินท์ เจียรวนนท์ อันดับ 58 ทรัพย์สิน 14.3
พันล้าน$ เกษตร/อาหาร
3. คนที่สาม เจริญ สิริวัฒนภักดี อันดับ 82 ทรัพย์สิน
11.7 พันล้าน$ เครื่องดื่ม
4. คนที่สี่ ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ อันดับ 736 ทรัพย์สิน 2 พันล้าน$ อสังหาริมทรัพย์
5. คนที่ห้า กฤตย์ รัตนรักษ์
อันดับ
785 ทรัพย์สิน 1.95 พันล้าน$ สื่อและอสังหาริมทรัพย์
6. คนที่หก ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ 825
ทรัพย์สิน 1.85 พันล้าน$ โรงพยาบาล
7. คนที่เจ็ด ทักษิณ ชินวัตร อันดับ 882 ทรัพย์สิน 1.7 พันล้าน$ โทรคมนาคมและอสังหาริมทรัพย์
ประเด็นสำคัญที่เราควรผลักดันในการปฏิรูป คือการเก็บภาษีในอัตราสูงพิเศษจากเศรษฐีไทยและบริษัทใหญ่ ตามที่อาจารย์ปรีดีเคยเสนอ เพื่อสร้างระบบรัฐสวัสดิการ และใครที่ไม่ยอมพูดถึงเรื่องนี้เวลาเสนอ “การปฏิรูป” ในปัจจุบัน ก็คงไม่อยากทำอะไรอย่างจริงจัง
(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2014/01/1_22.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น