สมปป. แถลงจุดยืนปกป้องประชาธิปไตย ชวนไปเลือกตั้ง
สมาพันธ์มหิดลปกป้องประชาธิปไตย (สม
ปป.) ชวนพี่น้อง
นักศึกษาไปเลือกตั้งเพื่อปกป้องและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ชี้ข้อเรียกร้องของกปปส.-กปท.ยากที่จะเป็นไปได้
สมาพันธ์มหิดลปกป้องประชาธิปไตยหรือ สมปป. ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1ดังนี้
เรื่องที่ ๑ การชุมนุมล้มระบอบประชาธิปไตย
เรื่องที่ ๑ การชุมนุมล้มระบอบประชาธิปไตย
การชุมนุมของคณะกรรมการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นระบอบประชาธิปไตยที่
สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ
กปปส.และการชุมนุมของกองทัพประชาชนโคนระบอบทักษิณ หรือ กปท.
ถือเป็นการชุมนุมที่สร้างความประหลาดใจเป็นประวัติการณ์ของประเทศไทย
เพราะนอกจากเรื่องจุดประสงค์ที่ต้องการในสิ่งยากที่จะเป็นไปได้ เช่น
เรียกร้องนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลาออกจากการรักษาการ
เรียกร้องนายกพระราชทาน ให้ปฏิรูปก่อนค่อยมีการเลือกตั้ง
การจัดตั้งสภาประชาชน การตั้งตนเป็นรัฐาธิปัตย์ เป็นต้น ดังนี้แล้ว
ยังมีวิธีการในลักษณะกระทำนอกกติการะบอบประชาธิปไตยที่ทำให้ได้มาซึ่งจุด
ประสงค์นั้นยังพิเศษกว่าการชุมนุมที่อื่นๆด้วย อาทิ
การชุมนุมปิดกรุงเทพมหานคร การบุกยึดกระทรวงต่างๆและสถานที่ราชการ
ตัดน้ำตัดไฟทำให้เครื่องพิมพ์บัตรเลือกตั้งที่โรงพิมพ์ทำงานไม่ได้
ล้อมสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งบางจังหวัดทำให้ผู้ที่จะมาสมัครสมาชิก
ผู้แทนราษฎรไม่สามารถมาลงสมัครได้ ปิดล้อมธนาคาร ขู่บุกสถานฑูตต่างประเทศ
การบอยคอตของพรรคนอมินี เป็นต้น
ที่ทำให้แปลกใจยิ่งกว่าเดิม คือ มีอธิการบดีหลายมหาวิทยาลัย ดารานักร้องนักแสดงหลายสังกัด แพทย์พยาบาลหลายแห่ง กกต.บางท่าน นักวิชาการหลายแขนง ประชาชนผู้มีการศึกษาและมีอันจะกิน มาเข้าร่วมชุมนุมกันอย่างล้นหลามเกิดเป็น กระแสธงสามสีฟีเวอร์ เพราะม็อบนี้ใช้สัญลักษณ์ธงชาติไทยสามสีที่ทำให้ผู้เข้าร่วมเกิดความรู้สึก ว่า "ตนรักชาติจึงออกมากู้ชาติ" จนอาจเรียกได้ว่า "คลั่งชาติ" ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีนกหวีดที่ถือว่าเป็นพร็อพหลักในการชุมนุมครั้งนี้ด้วย และยังถูกปลูกฝังชนิดฝังหัวจากแกนนำมากหน้าหลายตา จากคำว่า "มวลมหาประชาชน" จนตอนนี้กลายเป็นว่าผู้ร่วมชุมนุมเกิดความรู้สึกกับตัวเองว่า "ตนคือตัวแทนของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ, ตนคือชนชั้นสูง, ใครที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทาง กปปส. กปท. ถือเป็นขี้ข้าทักษิณทั้งหมด, มีเพียงท่านกำนันสุเทพและกปปส.เท่านั้นที่จะนำพาประเทศไทยแห่งนี้รอดพ้น วิกฤติระบอบทักษิณครั้งนี้ไปได้ คอร์รัปชั่นจะหมดไป นักการเมืองโกงจะไม่มีอีกแล้ว ประชาธิปไตยจะเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อำนาจจะถูกกระจายสู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง ชาวบ้านจะลืมตาอ้าปากได้ เศรษฐกิจไทยจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู เทียบเท่านานาอารยประเทศ สังคมไทยจะร่มเย็นเป็นสุข" พวกเค้าเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นหลังจากการปฏิรูปที่นำโดยท่านกำนันสุเทพ กปปส. กปท.และแท็คทีมกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เคยชนะในการเลือกตั้งเลยกว่า 20 ปี
พวกท่านเหล่านี้แหละ คือ ฮีโร่จะมาปราบปรามกับเหล่าวายร้ายยิ่งลักษณ์ ทักษิณ และทีมงานพรรคไทยรักไทย-พลังประชาชน ที่โดนยุบแล้วยุบอีก จนมาเป็นพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ซึ่งชนะบนสนามเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยตามมาตรฐานสากลมา 10 กว่าปีและการเลือกตั้งคราวนี้ พรรคเต็งหนึ่งไร้คู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย นี่น่าจะได้จัดตั้งรัฐบาลอีกสมัย เพียงแต่กลัวจะโดนลอบทำร้ายเหมือนในปี 2549 ที่มีบางพรรคการเมืองเคยบอยคอตการเลือกตั้งแล้วโวยวายเกิดพิรุจจนทำให้การ เลือกตั้งเป็นโมฆะ
การชุมนุมยิ่งใกล้วันเลือกตั้งยิ่งมีเหตุรุนแรงเพิ่มมากยิ่งขึ้นๆ เกิดจากการสร้างสถานการณ์จากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จนทำให้สำนักข่าวสื่อต่างประเทศได้เห็นใจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ กำลังโดนฝ่ายตรงข้ามทำร้ายด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เหตุเพราะการชุมนุมไม่เป็นไปตามครรลองคลองธรรม ซึ่งแกนนำและผู้ชุมนุมมีความหวังที่จะใช้กฎหมู่ให้ได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยที่ แต่เดิมเป็นของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ อันจะนำไปหนทางที่นำไปสู่การปกครองในระบอบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จสมบูรณ์แบบ ก็ต้องคอยดูกันต่อไปกับขบวนการล้มกติกาปล้นประชาธิปไตยของ กปปส. กปท.ครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่?
เนื่องด้วยสมาพันธ์มหิดลปกป้องประชาธิปไตย (สมปป.) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ เพราะนี้จะเป็นทางออกจากคำตอบของคนไทยทั้งประเทศต้องการอะไรตามหลักสากล อีกทั้งเป็นจะเป็นหนทางที่เหล่าประเทศที่เจริญแล้วใช้จัดการกระบวนการที่ขัด ต่อนิติรัฐนิติธรรม รวมทั้งคอร์รัปชั่นด้วย
ที่ทำให้แปลกใจยิ่งกว่าเดิม คือ มีอธิการบดีหลายมหาวิทยาลัย ดารานักร้องนักแสดงหลายสังกัด แพทย์พยาบาลหลายแห่ง กกต.บางท่าน นักวิชาการหลายแขนง ประชาชนผู้มีการศึกษาและมีอันจะกิน มาเข้าร่วมชุมนุมกันอย่างล้นหลามเกิดเป็น กระแสธงสามสีฟีเวอร์ เพราะม็อบนี้ใช้สัญลักษณ์ธงชาติไทยสามสีที่ทำให้ผู้เข้าร่วมเกิดความรู้สึก ว่า "ตนรักชาติจึงออกมากู้ชาติ" จนอาจเรียกได้ว่า "คลั่งชาติ" ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีนกหวีดที่ถือว่าเป็นพร็อพหลักในการชุมนุมครั้งนี้ด้วย และยังถูกปลูกฝังชนิดฝังหัวจากแกนนำมากหน้าหลายตา จากคำว่า "มวลมหาประชาชน" จนตอนนี้กลายเป็นว่าผู้ร่วมชุมนุมเกิดความรู้สึกกับตัวเองว่า "ตนคือตัวแทนของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ, ตนคือชนชั้นสูง, ใครที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทาง กปปส. กปท. ถือเป็นขี้ข้าทักษิณทั้งหมด, มีเพียงท่านกำนันสุเทพและกปปส.เท่านั้นที่จะนำพาประเทศไทยแห่งนี้รอดพ้น วิกฤติระบอบทักษิณครั้งนี้ไปได้ คอร์รัปชั่นจะหมดไป นักการเมืองโกงจะไม่มีอีกแล้ว ประชาธิปไตยจะเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อำนาจจะถูกกระจายสู่ท้องถิ่นอย่างทั่วถึง ชาวบ้านจะลืมตาอ้าปากได้ เศรษฐกิจไทยจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู เทียบเท่านานาอารยประเทศ สังคมไทยจะร่มเย็นเป็นสุข" พวกเค้าเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่า สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นหลังจากการปฏิรูปที่นำโดยท่านกำนันสุเทพ กปปส. กปท.และแท็คทีมกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เคยชนะในการเลือกตั้งเลยกว่า 20 ปี
พวกท่านเหล่านี้แหละ คือ ฮีโร่จะมาปราบปรามกับเหล่าวายร้ายยิ่งลักษณ์ ทักษิณ และทีมงานพรรคไทยรักไทย-พลังประชาชน ที่โดนยุบแล้วยุบอีก จนมาเป็นพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ซึ่งชนะบนสนามเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยตามมาตรฐานสากลมา 10 กว่าปีและการเลือกตั้งคราวนี้ พรรคเต็งหนึ่งไร้คู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย นี่น่าจะได้จัดตั้งรัฐบาลอีกสมัย เพียงแต่กลัวจะโดนลอบทำร้ายเหมือนในปี 2549 ที่มีบางพรรคการเมืองเคยบอยคอตการเลือกตั้งแล้วโวยวายเกิดพิรุจจนทำให้การ เลือกตั้งเป็นโมฆะ
การชุมนุมยิ่งใกล้วันเลือกตั้งยิ่งมีเหตุรุนแรงเพิ่มมากยิ่งขึ้นๆ เกิดจากการสร้างสถานการณ์จากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด จนทำให้สำนักข่าวสื่อต่างประเทศได้เห็นใจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ กำลังโดนฝ่ายตรงข้ามทำร้ายด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เหตุเพราะการชุมนุมไม่เป็นไปตามครรลองคลองธรรม ซึ่งแกนนำและผู้ชุมนุมมีความหวังที่จะใช้กฎหมู่ให้ได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยที่ แต่เดิมเป็นของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ อันจะนำไปหนทางที่นำไปสู่การปกครองในระบอบเผด็จการแบบเบ็ดเสร็จสมบูรณ์แบบ ก็ต้องคอยดูกันต่อไปกับขบวนการล้มกติกาปล้นประชาธิปไตยของ กปปส. กปท.ครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่?
เนื่องด้วยสมาพันธ์มหิดลปกป้องประชาธิปไตย (สมปป.) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้ เพราะนี้จะเป็นทางออกจากคำตอบของคนไทยทั้งประเทศต้องการอะไรตามหลักสากล อีกทั้งเป็นจะเป็นหนทางที่เหล่าประเทศที่เจริญแล้วใช้จัดการกระบวนการที่ขัด ต่อนิติรัฐนิติธรรม รวมทั้งคอร์รัปชั่นด้วย
ดังนั้นแล้วทางทีมงาน สมปป.จึงขอเชิญชวนพี่ๆน้องๆ นักศึกษาไปร่วมเลือกตั้งเพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการจะปกป้องและพิทักษ์รักษาไว้ ซึ่งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง
ขอสันติสุขและความสงบสุขจงบังเกิดมีขึ้นในประเทศไทยโดยเร็ว
โดย สมาพันธ์มหิดลปกป้องประชาธิปไตย (สมปป.)
Federation of Mahidol University for the Defense of Democracy (FMUD)
(ที่มา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น