หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ปรองดอง! แบบไทยๆ ตบหัวแล้วลูบหลัง

ปรองดอง! แบบไทยๆ ตบหัวแล้วลูบหลัง 

 
 
โดย กงจักร ปีศาจ
  

คสช. ได้รณรงค์ขอร้องแกมบังคับให้ประชาชนต่างสีเสื้อไปร่วมงานปรองดองเพื่อชาติหรืองานสลายสีเสื้อ ทำเสื้อยืดสีขาวมาแจกโดยสกรีนว่า ได้เวลาคนไทยรักกัน ในงานมีการนำแกนนำเสื้อแดง - เสื้อเหลืองในพื้นที่บางคน รวมทั้งเกณฑ์ข้าราชการทุกหน่วยงาน ทหาร ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านมาร่วมงาน รวมทั้งม็อบแมงสาบกปปส.ในพื้นที่ที่เคยเคลื่อนไหวให้ทหารออกมาทำรัฐประหารล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง

มีการเอาเต๊นท์มาตั้งร้องรำทำเพลง บางคนยังใส่เสื้อของ กปปส. ข้อมือมีสายรัดสีธงชาติ หลังเสื้อบางตัวสกรีนว่าวันชนะของประชาชนและข้อความอื่นๆ
ส่วนฝ่ายประชาธิปไตย หรือเสื้อแดงก็คงอยู่สภาพจำยอม หน้าชื่นอกตรม ด้วยความขมขื่นที่ถูกปล้นสิทธิเสรีภาพอย่างหน้าด้านๆจากทหารของพระราชา มันจึงเป็นเหมือนงานเยาะเย้ยถากถาง ตอกย้ำความเจ็บแค้นมากกว่า

ที่จริงม็อบแมงสาบกปปส.ไม่ได้ชนะ แต่พวกมันพ่ายแพ้ไม่มีทางลง จึงต้องอาศัยทหารของกษัตริย์มายึดอำนาจเหมือนที่ผ่านมา มันจึงเป็นเรื่องน่าอับอายมากกว่าที่ใช้วิธีโกงหรือปล้นจนชนะ แต่คนพวกนี้เป็นพวกที่ไม่รู้จักอาย คณะรักษาควาสงบราบคาบอวดอ้างว่าพวกมันประสบผลสำเร็จในการสร้างความปรองดอง แต่มันก็ออกประกาศให้คนไปรายงานตัวอยู่เรื่อยๆ บางครั้งก็ออกหมายจับ แถมข่มขู่ห้ามปราบการแสดงออกทางการเมืองโดยเด็ดขาด มันจึงไม่ใช่บรรยากาศของการปรองดอง แต่มันเป็นบรรยากาศของเผด็จการทหารที่ล้าหลังดักดานทั้งเข้มงวดกวดขันและหวาดระแวง

ผู้คนที่มีความคิดเห็นต่าง ถูกจับตามอง ถูกไล่จับ ถูกข่มขู่ ถูกดักฟังโทรศัพท์ เป็นการสร้างบรรยากาศของความหวาดกลัว โหดร้าย ป่าเถื่อน แค่นัดกันมาอ่านหนังสือ กินแซนวิช สวมเสื้อ Respect My Vote ก็ถึงกับต้องถูกจับลากเหมือนฆาตกร

แต่คณะรักษาความสงบราบคาบก็ยังทำดัดจริตว่าต้องการคืนความสุขให้กับประชาชน แบบผักชีโรยหน้า เป็นบรรยากาศคล้ายกับการกลบความเศร้าโศกในงานศพ ด้วยการจัดให้มีงานรื่นเริง ฉายหนัง โขน ละคร จัดคอนเสิร์ต

คณะรักษาความสงบราบคาบพยายามเอาใจคนไทยสารพัดเพื่อให้คนไทยลืมเรื่องที่พวกมันทำรัฐประหารปล้นอำนาจของประชาชน มันอ้างการคืนความสุขให้ประชาชน โดยเอาเงินของประชาชนทั้งประเทศไปใช้ เพราะมันเป็นเผด็จการทหารเต็มรูปแบบที่จะทำอะไรก็ได้ ต่างจากรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยที่มีสภาและสื่อคอยตรวจสอบ

ประชาชนไทยส่วนใหญ่ต้องการการเลือกตั้ง ต้องการสภาและรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแต่กองทัพไทยไม่ทำ กลับไปทำในสิ่งที่ประชาชนไทยไม่ต้องการ ถ้ากองทัพไทยคิดจะคืนความสุขให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ก็แค่จัดให้มีรัฐธรรมนูญแบบสากลนิยม ทำกฏหมายให้เป็นกฏหมาย ให้ทุกคนอยู่ภายใต้กฏหมายเดียวกัน เสมอเหมือนกัน เป็นไปตามหลัก ความเสมอภาค เสรีภาพ และภราดรภาพ แล้วจัดให้มีเลือกตั้ง อย่างบริสุทธิ์ผุดผ่อง ตามครรลองครองธรรม

แค่นี้ ทุกคนก็มีความสุขแล้ว ไม่ต้องมาให้ดูหนังฟรี ดูบอลฟรี เข้าพิพิทธภัณฑ์ฟรี มันดูไร้สาระมากไปหน่อย ถ้าจะให้ปรองดองกันจริงๆ ก็แค่ให้ความเป็นธรรมที่เป็นธรรมจริงๆโดยเสมอภาคและเป็นธรรม ไม่ใช่เลือกปฏิบัติและพยายามมุ่งจำกัดเสรีภาพของประชาชนเหมือนอย่างที่เป็นอยู่...........

อาวุธสงคราม! คือทรัพย์สินของทหาร จัดเอง จับเอง

อาวุธสงคราม! คือทรัพย์สินของทหาร จัดเอง จับเอง 



Power Agusta's photo. 
คสช. แถลงผลการจับกุมและยึดอาวุธสงคราม ชี้มีส่วนเชื่อมโยง ‘จักรภพ’


อาวุธสงครามคือทรัพย์สินของทหาร จัดเอง จับเอง

สิ่งที่ ทหารโกหกไม่ได้คือ 7 เดือน ที่แล้ว กปปส.เข้ายึดสถานที่ ราชการ มีการชุมนุมและทำร้าย ปชช.เห็นต่าง และ มีการจับอาวุธได้เป็นรายวัน เป็นอาวุธสงคราม มีการตั้งหน่วยทหารทั่วกรุงเทพ ..กปปส.ยึด กทม. ตามที่กบฎสุเทพประกาศ

การจับอาวุธสงครามโชว์ มากมายขนาดนี้ ใครจะมีปัญญาซื้อหากไม่ใช่หน่วยงานทหาร ที่มีงบลับ งบที่เพิ่มขึ้นหลัง รปห.ทุกครั้ง การยัดเยียดข้อกล่าวหา ต่อ ปชช.เสื้อแดง มันคือสิ่งทีเกิดขึ้นทุกครั้ง หากให้ทหารสลายการ ชุมนุม

เฮโลสาระพา! มาร่วมฉลอง การคืนความสุขแบบไทยๆ?

เฮโลสาระพา! มาร่วมฉลอง การคืนความสุขแบบไทยๆ?



 
โดย  กงจักร ปีศาจ


คสช. คืนความสุขให้คนไทย โดยให้ไปดูหนังพระนเรศวร เพื่อให้รักทหารมากขึ้น รักชาติมากขึ้น ในยามที่ทหารก่อรัฐประหารปล้นอำนาจของประชาชน เพื่อให้ประชาชนมองว่าทหารเป็นวีรบุรุษ ที่ทำเพื่อชาติ ทั้งๆที่เงินสร้างหนังพระนเรศวรทุกภาคตั้งแต่ภาค 1 ถึงภาคที่ 5 ส่วนหนึ่งมาจากเงินภาษีของประชาชน

โดยไม่มีการเปิดเผยทุนสร้างที่ชัดเจน เพราะสามภาคเเรกบอกว่าใช้ทุนสร้างรวมประมาณ 700-800 ล้านบาท ตามด้วยงบไทยเข้มเเข็งอีก 500 ล้านบาท และงบสมทบอีกสารพัด สร้างแล้วไม่คุ้ม เพราะเก็บรายได้เข้าชมน้อย แต่ก็ไม่ขาดทุนเพราะเอาเงินภาษีมาสร้าง แล้วยังมาเก็บเงินเข้าชมเข้ากระเป๋าพรรคพวกตนเอง จึงมีแต่ได้กับได้

แม้แต่โรงถ่ายที่สร้างจากเงินภาษี ก็ยังเปิดขายตั๋วเก็บเงินเข้าชม แต่หนังเรื่องพระนเรศวรก็ไม่ได้ทำให้ผู้รักประชาธิปไตยหันมานิยมทหารโจรที่รวมหัวกันปล้นประเทศแต่อย่างใด แม้ว่าคณะรักษาความสงบราบคาบแห่งชาติจะพยายามจัดการแสดง แจกเสื้อ แจกข้าวสาร รณรงค์ให้ประชาชนรักทหาร ทำสติ๊กเกอร์ We love Thai Army แจกคนรักทหาร ไปติดรถ ติดบ้าน โฆษณาป่าวร้องด้วยคำโฆษณาชวนเชื่อสวยหรูว่าจะคืนความสุขให้คนไทย ด้วยการยึดอำนาจแบบเบ็ดเสร็จที่ไม่เห็นหัวประชาชนแม้แต่น้อย

พระนเรศวรท่านกู้เอกราชจากพม่าที่มายึดกรุงศรีอยุธยาและกดคนไทยลงเป็นทาส พระนเรศวรท่านมาปลดปล่อยประชาชนให้พ้นจากการเป็นทาสของพม่าข้าศึก แต่จอมพลประยุทธ์หัวคณะรักษาความสงบราบคาบแห่งชาติไม่ได้มาปลดปล่อยคนไทยจากอริราชศัตรู แต่กลับมาปล้นอิสระภาพและเสรีภาพของคนไทยทั้งชาติ ทำตัวเป็นเจ้าเหนือหัวที่กดคนไทยให้เป็นแค่ไพร่ทาสที่ต้องเชื่อฟัง และห้ามขัดขืนหรือลองดีกับทหารที่ผูกขาดความรักชาติไว้แต่ผู้เดียว

การที่เผด็จการทหารให้ประชาชนดูหนังพระนเรศวรฟรี เพราะมีพื้นฐานความคิดปลูกฝังความคลั่งชาติที่ต้องสร้างศัตรูต่างชาติ รวมไปถึงการไล่บี้แรงงานต่างชาติให้เดินทางกลับบ้าน ซึ่งกระทบต่อภาคการผลิตของไทยอย่างหนัก รวมไปถึงความคิดที่ว่าประชาชนเป็นแค่ไพร่ทาสที่สามารถสั่งให้รักชาติได้ ไม่ต้องคิด ถ้าไม่ทำ ต้องถูกลงโทษ ใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือบังคับ เป็นการใช้วิธีการเก่าๆ ที่คิดว่าคนไทยเป็นแค่พวกฉาบฉวยที่หลอกง่ายและลืมเร็ว ไม่ได้มีอุดมการณ์หรือหลักการอะไรเลย......

ประนามความเป็นสองมาตรฐานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ประนามความเป็นสองมาตรฐานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)


 
 


สังคมไทย ไม่มีทางปรองดองได้ด้วยการกดหัวคนฝ่ายหนึ่งได้หรอกไม่ต้องมองไกลเกินไปถึง 3 เดือน แค่ 1 เดือนเศษๆ คุณกดหัวคนไปกี่คนแล้วละ

 
แถลงการณ์กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD)

เรื่อง ประนามความเป็นสองมาตรฐานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

จากเหตุการณ์ที่ นายเทพ เวชวิสิฐ ได้เดินทางไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ในวันที่ 29 มิถุนายน 2557 เพื่อยื่นหนังสือแสดงการประท้วงต่อการดำเนินนโยบายของสหรัฐอเมริกา ที่ถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงการดำเนินกิจการภายในของประเทศไทย

โดยพลตำรวจตรีอำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการกองบัญชาการศึกษา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยราชการผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหน้าสถานทูตสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวถึงการทำกิจกรรมของนายเทพว่า ไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมายที่ห้ามการชุมนุมทางการเมือง เนื่องจากเป็นเพียงการแสดงออกถึงความไม่พอใจเท่านั้น

กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD) ขอประนามการกระทำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นผู้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจการปกครองประเทศ ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งถึงความเป็นสองมาตรฐาน เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพราะในขณะที่หากเป็นกิจกรรมที่ประท้วงต่อ คสช. แล้ว ทั้งๆ ที่กิจกรรมเหล่านั้นเป็นการแสดงออกอย่างสันติวิธี ไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้ใด เช่น การกินแซนด์วิช การชูสามนิ้ว การอ่านหนังสือ 1984 คสช. ก็ยังให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารเข้าควบคุมตัวผู้เข้าร่วมกิจกรรม บางรายถูกทำร้ายร่างกายขณะควบคุมตัว บางรายถูกจำคุก แต่หากว่าเป็นกิจกรรมที่ประท้วงต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นประเทศที่มีมีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อ คสช. แล้ว คสช. กลับอนุญาตให้มีขึ้นได้

แท้ที่จริงแล้ว คสช. ไม่ได้ต้องการจะคืนความสุขสู่ประชาชนอย่างที่ได้เปิดเพลงกล่อมอยู่ทุกวัน คสช. เพียงแค่ต้องการกำจัดผู้ที่เห็นต่างและบีบบังคับให้ยินยอมตามแนวทางของตน เท่านั้น

การเลือกปฎิบัติของ คสช. นี้ ยังเป็นการทำลายความเชื่อถือที่ประชาชนมีต่อรัฐ ในการได้รับความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปแล้ว ประเทศชาติก็ไม่มีวันที่จะสงบสุขได้

กลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย (LLTD) หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คสช. จะตระหนักถึงความเสียหายที่ตนได้ก่อให้เกิดแก่ประชาชนและสังคม และรีบยุติบทบาทของตน ให้ประเทศไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยในเร็ววัน

วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ถ้าจะสร้างประชาธิปไตย เราต้องโค่น “ระบอบประยุทธ์”

ถ้าจะสร้างประชาธิปไตย เราต้องโค่น “ระบอบประยุทธ์”


10339290_790588080960126_6211533798130786314_o



 
โดย ใจ อึ๊งภากรณ์


ขณะนี้ประยุทธ์มือเปื้อนเลือด ตระกูลจันทร์โอชา และพรรคพวกทหารของเขา กำลังสร้าง “ระบอบประยุทธ์” ในพื้นที่การเมือง เศรษฐกิจ กับสังคม ถ้าปวงชนชาวไทยจะมีสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย เราต้องร่วมแรงร่วมใจกันล้มล้างระบอบประยุทธ์อันชั่วร้ายนี้

ตอนนี้พี่เบิ้มจันทร์โอชา กำลังโยกย้ายข้าราชการที่เคยดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนรัฐประหาร และแต่งตั้งญาติพี่น้องและพรรคพวก เข้ามาครองตำแหน่งแทน ความหวังคือจะต้องคุมสังคมต่อไปอีกนาน

ในรัฐวิสาหกิจทั้งหลาย พี่เบิ้มจันทร์โอชากำลังกำจัดกรรมการบริหารบอร์ดต่างๆ และแต่งตั้งทหารกับพวกประจบสอพลอเข้ามาแทน ในกรณี ปตท. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เข้ามาโกยโดยตรง และ “นกหวีด”ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เข้ามานั่งข้างๆ บอร์ดรัฐวิสาหกิจทุกแห่งมีพี่เบิ้มจันทร์โอชานั่งคุมจากเบื้องบน นี่คือการละเมิดอำนาจ เพื่อผลประโยชน์ทับซ้อนกับการคอร์รับชั่น แบบสุดขั้ว “โมเดล 1984”

ในประวัติศาสตร์ไทย เผด็จการทหารยุคจอมพลป. และสฤษดิ์ ริเริ่มวัฒนธรรมการโกงกินและการดูดทรัพย์จากรัฐวิสาหกิจเข้ากระเป๋าตนเอง พี่เบิ้มจันทร์โอชามองว่าการใส่เครื่องแบบและการเบ่งอำนาจแปลว่าทหารมี คุณสมบัติในการเป็นเลิศในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารเศรษฐกิจ การศึกษา กฏหมาย หรือการฆ่าคนไทยที่รักประชาธิปไตย ดังนั้นทหารควรได้รับอะไรตอบแทน

พี่เบิ้มจันทร์โอชาได้แต่งตั้งตนเองเป็นหัวหน้าใหญ่คุมการค้า การลงทุน และทุกอย่างเกี่ยวกับเศรษฐกิจ คือพูดง่ายๆ ตรงไหนมีเงินทอง ตรงนั้นต้องมีนายพล เหมือนแมลงวันตอมขี้

แต่ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ไม่ต้องไปสำรวจคณะทหารเถื่อนหรอก ก่อนหรือหลังเข้าแต่งตั้งตนเองในตำแหน่งใดๆ ไม่ต้องรายงานทรัพย์สิน ต่างจากนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งโดยสิ้นเชิง นี่ก็อีกตัวอย่างของการทุจริตครั้งใหญ่ของคณะทหารเถื่อน ในขณะเดียวกัน ปปช. กำลังสืบสวนอดีตนายกยิ่งลักษณ์ เพราะมันจะเป็นโอกาสทองที่จะห้ามไม่ให้มีบทบาททางการเมืองในอนาคต และอาจมีโบนัสใหญ่คือยุบพรรคเพื่อไทย

ในภาคการศึกษา โรงเรียนต่างๆ ต้องเปลี่ยนหลักสูตรให้สอดคล้องกับความคิดของพี่เบิ้มจันทร์โอชา มีการเน้นวินัย การรักชาติของอำมาตย์ และการปลูกฝังความรักต่อพี่เบิ้มจันทร์โอชา แต่เวลาทำอะไรต้องหัดประหยัด เพราะคณะทหารเถื่อนตัดงบการศึกษาเพื่อพยุงงบทหารและค่าใช้จ่ายของเผด็จการ
โครงการที่จะพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภค ถูกตัดไปด้วย แต่บางโครงการอาจฟื้นใหม่ ซึ่งเป็นโอกาสที่ทหารจะรับเงินใต้โต๊ะในการประมูลรอบใหม่

ในด้านสื่อมวลชน คณะทหารเถื่อนขอให้สื่อทำหน้าที่อย่างสบายใจ ไม่ต้องวิตกเรื่องทหารนั่งคุมสำนักงาน เสนอข่าวได้อย่างเสรี เพียงแต่ต้องเสนอข่าวแนวที่ชื่นชมอวยคณะของพี่เบิ้มจันทร์โอชา และโกหกชาวโลกว่าประเทศไทยเสรีและมีความสุข

คราวก่อนที่ทหารก่อรัฐประหาร ๑๙ กันยา มีการเขียนรัฐธรรมนูญทหาร และสร้างองค์กรที่อิสระจากการตรวจสอบของประชาชน องค์กรเหล่านี้เต็มไปด้วยพวกอนุรักษ์นิยมที่ชอบทหารเผด็จการและเกลียดชัง ทักษิณ ตัวอย่างก็รู้ๆ กัน เช่นศาลรัฐธรรมนูญ และส.ว.ลากตั้ง แต่มันไม่พอ ในที่สุดต้องยอมให้มีการเลือกตั้งและพรรคเพื่อไทยก็ชนะ วิกฤตเลยยืดยาว

คราวนี้ทหารต้องการสร้างระบอบประยุทธ์ให้คุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ดังนั้นจะมีการแต่งตั้งพวกประจบสอพลอที่เกลียดชังประชาธิปไตยและดูถูก ประชาชน ให้มานั่งร่างรัฐธรรมนูญระบอบประยุทธ์ ใช้ “พม่าโมเดล” ทหารจะได้มีอิทธิพลต่อไปอีกนาน และผลการเลือกตั้งจะต้องถูกออกแบบให้เหมาะสมกับระบอบ“ประชาธิปไตยภายใต้การ กำกับของท่านผู้นำ” (guided democracy) โดยที่ทหารจะมีสองบทบาทคู่ขนานตลอดไปในสังคม คือฆ่าคน และเสือกการเมืองพร้อมกัน ตามสูตร “Dwifungsi” ของอดีตเผด็จการซุฮาร์โต้ในอินโดนีเซีย

คนหนึ่งที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับสภาประจบสอพลอ ที่จะมานั่งร่างรัฐธรรมนูญระบอบประยุทธ์คือ สุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีธรรมศาสตร์ เพราะเขามองว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นเผด็จการ และการทำรัฐประหารเพียงแต่นำคนใส่เครื่องแบบเข้ามาบริหารประเทศแทนเท่านั้น

ประเทศไทยโชคดีมากที่มีคนฉลาดแบบสุรพล นิติไกรพจน์ และมีคนที่ทั้งกล้า ทั้งขยัน และทั้งมีวิสัยทัศน์เพื่อประโยชน์ตนเอง อย่างพี่เบิ้มจันทร์โอชา ไม่ยังงั้นประเทศจะถอยหลังลงคลองในมือของประชาชนส่วนใหญ่ที่โง่เขลา

(ที่มา)
http://turnleftthai.wordpress.com/2014/06/28/ถ้าจะสร้างประชาธิปไตย-เ

คืนความสุขให้คนไทย! เสรีภาพในกรงทอง

คืนความสุขให้คนไทย! เสรีภาพในกรงทอง


 
แดนตาราง
http://www.yourepeat.com/watch/?v=C8Q6-Z6nbf8

ความจนตรอกของเหล่านายทหารและกลุ่มอำมาตย์ เพียงเพื่อหวังขอส่งตัวข้ามแดน!?!

ความจนตรอกของเหล่านายทหารและกลุ่มอำมาตย์ เพียงเพื่อหวังขอส่งตัวข้ามแดน!?!



 


ศาลทหารออกหมายจับ จักรภพ ข้อหาเกี่ยวพันอาวุธสงคราม หวังขอส่งตัวข้ามแดน
http://www.prachatai.com/journal/2014/06/54304 

"เพียงแค่สองวันที่แล้ว คณะเผด็จการทหารบอกว่าไม่สนใจองค์กรเราโดยบอกว่า

“ไม่มีความสำคัญ”

แต่ในตอนนี้ เรากลับถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังกลุ่มกองกำลังติดอาวุธซึ่งไม่มีอยู่จริง ซ้ำยังพยายามลิดรอนสิทธิในการเดินทางของเราโดยเพิกถอนหนังสือเดินทาง

การกระทำของคณะเผด็จการทหารเหล่านี้เผยให้เห็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น - ความรู้สึกไม่มั่นใจของพวกเขาที่มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน"

จักรภพ เพ็ญแข เลขานุการบริหารขององค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย"



จักรภพ เพ็ญแข - Jakrapob Penkair
6 นาทีที่แล้ว

แถลงการณ์ตอบโต้ข้อกล่าวหาเรื่องอาวุธสงครามและการเพิกถอนหนังสือเดินทาง

วันเสาร์ที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗

“ข้อกล่าวหาที่คณะรัฐประหารเถื่อนไทยใช้กดดันผมในวันนี้ เผยให้เห็นความจนตรอกของเหล่านายทหารและกลุ่มอำมาตย์ที่พวกเขาทำงานรับใช้อีกครั้ง 

การกล่าวอ้างอันเป็นเท็จประเภทที่ว่าผมอยู่เบื้องหลัง “กลุ่มติดอาวุธ” ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นิยายเท่านั้น แต่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความโข่เขลาของคณะเผด็จการทหารลวงโลก

ผมขอพูดอย่างชัดเจนว่า ไม่มีหลักฐานใดที่สามารถเชื่อมโยงผมกับอาวุธที่คณะเผด็จการทหารยึดมาได้ และผมขอท้าทายให้พวกเขาแสดงหลักฐานเหล่านั้น แน่นอนว่า แม้แต่การยึดอาวุธเหล่านั้นก็มีกลิ่นของความน่าสงสัยโชยออกมา 

เพราะไม่มีการสอบสวนที่เป็นอิสระเรื่องการยึดอาวุธ ไม่มีการเก็บลำดับขั้นตอนหลักฐาน และข้อกล่าวหาที่คณะเผด็จการทหารหยิบยกขึ้นมานั้นไม่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถถูกหลักล้างได้อย่างง่ายดายหากถูกตรวจสอบอย่างละเอียด

กรณีที่คณะเผด็จการทหารพยายามจะ “ทำเรื่องส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน” ผมในข้อหาดังกล่าว พวกเขาเองควรจะต้องรับรู้ว่าไม่มีรัฐบาลไหนในโลกใบนี้ที่จะเชื่อฟังยอมจำนนต่อคำข่มขู่ของพวกเขา เพราะผมจะได้รับสิทธิในการเข้าถึงหลักฐานทั้งหมดที่พวกเขาสร้างขึ้นมา รวมถึงพื้นที่ในการท้าทายหลักฐานเหล่านั้น

และนี้คือเหตุผลที่กลไกล “ตุลาการ” เดียวที่พวกเขานำมาใช้คือการเร่งรัดดำเนินคดีด้วยข้อหาเท็จโดยการใช้ “ศาล” ทหารของพวกเขา ที่ซึ่งกระบวนการอันควรแห่งกฎหมายและหลักนิติธรรมได้ถูกทำลายลงไปนานแล้วเพื่อรองรับระบอบการปกครองเผด็จการ 

ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่าคดีความทั้งหมดที่นำขึ้นสู่ “ศาล” ทหารเกิดขึ้นในบริบทของรูปแบบระบบกฎหมายที่ไม่ต่างไปจากละครเวทีอันน่าขัน โดยปราศจากสิทธิทางกฎหมาย

และเพื่อเป็นหลักฐาน ผมขอแถลงว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นในการต่อสู้แบบ “ติดอาวุธ” ผมเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในการต่อสู้ทางการเมือง สังคมและวัฒนธรรมโดยมีฐานมั่นที่เป็นจริงผ่านทางเจตนารมณ์ทาง
ประชาธิปไตยของประชาชนไทย 

กลุ่มนายทหารและกลุ่มอำมาตย์ที่พวกเขาทำงานรับใช้ทราบอย่างดีว่าหากปล่อยให้ประชาชนไทยแสดงออกซึ่งเจตจำนงค์ประชาธิปไตยแล้ว อำนาจของพวกเขาจะสิ้นสุดลง และนำไปสู่การฟื้นฟูระบอบที่ชอบด้วยกฎหมายและหลักการรับผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ 

ในเวลานี้ กองทัพและกลุ่มอำมาตย์ที่พวกเขาทำงานรับใช้คือคนกลุ่มเดียวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อต้านเจตจำนงค์ของประชาชนไทยด้วยการใช้ “อาวุธ” โดยมิชอบด้วยกฎหมาย 

ผู้ที่เชื่อมั่นในประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ เพราะเรามั่นใจอย่างแท้จริงว่า เมื่อประชาชนไทยได้รับสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกลับคืนมา คณะเผด็จการทหารจะกลายเป็นเพียงแค่ความผิดเพี้ยนทางประวัติศาสตร์เท่านั้น

ผมขอกล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องที่คณะเผด็จการทหารเพิกถอนหนังสือเดินทางของผมว่า นี่มิใช่เป็นเพียงการกระทำกดขี่อันวิตถารเท่านั้น แต่ยังทำให้ประชาชนคนไทยที่ต่อต้านการปกครองระบอบทหารกลายเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง 

การเพิกถอนดังกล่าวจะประจานให้ประชาคมโลกเห็นว่า คณะเผด็จการทหารไทยไม่ต่างไปจากกลุ่มทรราชผู้เกรี้ยวกราดที่ทำประพฤติตนนอกมาตรฐานกฎหมายระหว่างประเทศ

จักรภพ เพ็ญแข
จักรภพ เพ็ญแข


แถลงการณ์ตอบโต้ข้อกล่าวหาเรื่องอาวุธสงครามและการเพิกถอนหนังสือเดินทาง

วันเสาร์ที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๗

“ข้อกล่าวหาที่คณะรัฐประหารเถื่อนไทยใช้กดดันผมในวันนี้ เผยให้เห็นความจนตรอกของเหล่านายทหารและกลุ่มอำมาตย์ที่พวกเขาทำงานรับใช้ อีกครั้ง 

การกล่าวอ้างอันเป็นเท็จประเภทที่ว่าผมอยู่เบื้องหลัง “กลุ่มติดอาวุธ” ไม่ใช่เป็นเพียงแค่นิยายเท่านั้น แต่เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความโข่เขลาของคณะเผด็จการทหารลวงโลก

ผมขอพูดอย่างชัดเจนว่า ไม่มีหลักฐานใดที่สามารถเชื่อมโยงผมกับอาวุธที่คณะเผด็จการทหารยึดมาได้ และผมขอท้าทายให้พวกเขาแสดงหลักฐานเหล่านั้น แน่นอนว่า แม้แต่การยึดอาวุธเหล่านั้นก็มีกลิ่นของความน่าสงสัยโชยออกมา
เพราะไม่มีการสอบสวนที่เป็นอิสระเรื่องการยึดอาวุธ ไม่มีการเก็บลำดับขั้นตอนหลักฐาน และข้อกล่าวหาที่คณะเผด็จการทหารหยิบยกขึ้นมานั้นไม่มีความน่าเชื่อถือ และสามารถถูกหลักล้างได้อย่างง่ายดายหากถูกตรวจสอบอย่างละเอียด

กรณีที่คณะเผด็จการทหารพยายามจะ “ทำเรื่องส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน” ผมในข้อหาดังกล่าว พวกเขาเองควรจะต้องรับรู้ว่าไม่มีรัฐบาลไหนในโลกใบนี้ที่จะเชื่อฟังยอมจำนน ต่อคำข่มขู่ของพวกเขา เพราะผมจะได้รับสิทธิในการเข้าถึงหลักฐานทั้งหมดที่พวกเขาสร้างขึ้นมา รวมถึงพื้นที่ในการท้าทายหลักฐานเหล่านั้น

และนี้คือเหตุผลที่กลไกล “ตุลาการ” เดียวที่พวกเขานำมาใช้คือการเร่งรัดดำเนินคดีด้วยข้อหาเท็จโดยการใช้ “ศาล” ทหารของพวกเขา ที่ซึ่งกระบวนการอันควรแห่งกฎหมายและหลักนิติธรรมได้ถูกทำลายลงไปนานแล้ว เพื่อรองรับระบอบการปกครองเผด็จการ 

ดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่าคดีความทั้งหมดที่นำขึ้นสู่ “ศาล” ทหารเกิดขึ้นในบริบทของรูปแบบระบบกฎหมายที่ไม่ต่างไปจากละครเวทีอันน่าขัน โดยปราศจากสิทธิทางกฎหมาย
และเพื่อเป็นหลักฐาน ผมขอแถลงว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นในการต่อสู้แบบ “ติดอาวุธ” ผมเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ในการต่อสู้ทางการเมือง สังคมและวัฒนธรรมโดยมีฐานมั่นที่เป็นจริงผ่านทางเจตนารมณ์ทางประชาธิปไตยของประชาชนไทย
กลุ่มนายทหารและกลุ่มอำมาตย์ที่พวกเขาทำงานรับใช้ทราบอย่างดีว่าหากปล่อยให้ ประชาชนไทยแสดงออกซึ่งเจตจำนงค์ประชาธิปไตยแล้ว อำนาจของพวกเขาจะสิ้นสุดลง และนำไปสู่การฟื้นฟูระบอบที่ชอบด้วยกฎหมายและหลักการรับผิดของเจ้าหน้าที่ รัฐ 

ในเวลานี้ กองทัพและกลุ่มอำมาตย์ที่พวกเขาทำงานรับใช้คือคนกลุ่มเดียวที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการต่อต้านเจตจำนงค์ของประชาชนไทยด้วยการใช้ “อาวุธ” โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
ผู้ที่เชื่อมั่นในประชาธิปไตยไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ เพราะเรามั่นใจอย่างแท้จริงว่า เมื่อประชาชนไทยได้รับสิทธิ์ในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกลับคืนมา คณะเผด็จการทหารจะกลายเป็นเพียงแค่ความผิดเพี้ยนทางประวัติศาสตร์เท่านั้น

ผมขอกล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องที่คณะเผด็จการทหารเพิกถอนหนังสือเดินทางของผม ว่า นี่มิใช่เป็นเพียงการกระทำกดขี่อันวิตถารเท่านั้น แต่ยังทำให้ประชาชนคนไทยที่ต่อต้านการปกครองระบอบทหารกลายเป็นผู้ลี้ภัยทาง การเมือง การเพิกถอนดังกล่าวจะประจานให้ประชาคมโลกเห็นว่า คณะเผด็จการทหารไทยไม่ต่างไปจากกลุ่มทรราชผู้เกรี้ยวกราดที่ทำประพฤติตนนอก มาตรฐานกฎหมายระหว่างประเทศ

วันเสาร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การไล่ล่าคนงานเขมรกับพม่าขัดกับผลประโยชน์คนไทย

การไล่ล่าคนงานเขมรกับพม่าขัดกับผลประโยชน์คนไทย 























"ฮุนเซน" โวยทางการไทยละเมิดสิทธิ์แรงงานเขมรครั้งใหญ่ จี้ปล่อยตัว 13 คนที่โดนจับ
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1403967784


ขณะนี้เผด็จการทหารฝ่ายขวาของประยุทธ์ กำลังใช้แนวชาตินิยมสุดขั้วและการสร้างกระแสเกลียดชังประชาชนจากเพื่อนบ้าน เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นและกดขี่คนไทยส่วนใหญ่ให้เป็นทาสรับใช้ทหารและชนชั้น ปกครอง 

นอกจากการขับไล่เพื่อนแรงงานจากเขมรและพม่าจะมีผลกระทบกับ เศรษฐกิจไทยแล้ว มันยังมีผลกระทบกับความเข้มแข้งของขบวนการแรงงานและขบวนการประชาธิปไตย

ในแง่เศรษฐกิจ ธุรกิจไทยในทุกระดับขาดแคลนแรงงานค่าจ้างต่ำในงานสกปรกและยากลำบาก ซึ่งมิตรสหายจากเพื่อนบ้านได้เข้ามาทำงานในส่วนนี้ ถ้าเค้าขาดหายไปเศรษฐกิจไทยก็จะขยายตัวช้าลง ซึ่งจะมีผลกระทบกับคนไทยธรรมดาจำนวนมาก

ในแง่ของความตอแหลเราต้องถามว่าในบ้านเรือนของนายพล และ พวกคณะทหาร รวมถึงชนชั้นกลางที่เชียรทหาร มีการใช้และเอาเปรียบคนเขมรหรือคนพม่ามากน้อยเพียงไร 

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2557

ขบวนการเสรีไทย

แดงสังคมนิยม


ขบวนการเสรีไทย 



โดย ใจ อึ๊งภากรณ์

 

ใน เมื่อพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. ยอมจำนนต่อคณะทหารเถื่อน การประกาศตัวขององค์กรเสรีไทยเป็นปรากฏการณ์ที่น่าชื่นชม และให้กำลังใจแก่ผู้รักประชาธิปไตยเป็นจำนวนมากในประเทศไทย

ความ สำคัญของขบวนการเสรีไทยในยุคนี้ คือ การประกาศตัวเป็นแกนนำในการต่อสู้กับเผด็จการทหาร ซึ่งแกนนำนี้ ถ้ามีจุดยืนที่ถูกต้องและชัดเจน จะสามารถครองใจคนเสื้อแดงภายในประเทศจำนวนมาก นี่คืออาวุธที่เราจะต้องรู้จักใช้อย่างถึงที่สุด ไม่ควรจะพลาดโอกาส เพราะแกนนำเสื้อแดงก้าวหน้าที่จะกระจัดกระจาย หลายคนติดคุกและหลายคนกำลังหลบหนีอยู่ คำถามสำคัญคือ ขบวนการเสรีไทยจะใช้เครดิตที่มีอยู่กับประชาชนไทยอย่างจริงจังหรือไม่

แกน นำของขบวนการเสรีไทยยอมรับว่าในขณะนี้องค์กรยังเล็กอยู่ และภารกิจสำคัญคือการขยายสมาชิก นอกจากนี้ในเมื่อองค์กรเพิ่งตั้งขึ้นมาในไม่กี่วันที่ผ่านมา เราจะไปหวังว่าขบวนการเสรีไทยจะมีคำตอบครบชุดเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวล้ม เผด็จการไม่ได้ 

คำ ถามสำคัญที่ขบวนการเสรีไทยควรจะตอบกับมวลชนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตย อิสระที่ไม่ใช่เสื้อแดงคือ เสรีไทยจะเน้นการเคลื่อนไหวตรงจุดไหน? การล้มเผด็จการจะต้องอาศัยพลังชี้ขาดภายในประเทศ ดังนั้นต้องมีการเน้นการจัดตั้งเครือข่ายของขบวนการเสรีไทยภายในประเทศเป็น อันดับหนึ่ง เราทราบดีว่าเผด็จการทหารกำลังใช้อำนาจป่าเถื่อนในการปราบปรามผู้ที่คิดต่าง การจัดตั้งขบวนการเสรีไทยภายในประเทศไทยจึงต้องเป็นงานใต้ดิน  แต่อย่าลืมว่าเสื้อแดงมีเครือข่ายทั่วประเทศอยู่แล้ว และผู้รักประชาธิปไตยอิสระก็มีเครือข่ายหลวมๆ กระจัดกระจายอยู่บ้าง ซึ่งเราเห็นจากการออกมาต่อต้านรัฐประหาร เราต้องใช้ทรัพยากรสำคัฐตรงนี้

ภารกิจสำคัญของขบวนการเสรีไทย จึงต้องเป็นการประสานระหว่างแกนนำนอกประเทศกับเครือข่ายภายในประเทศ

เสรี ไทยจะต้องพิสูจน์กับมวลชนว่ารักประชาธิปไตยภายในองค์กร คือแกนนำและการนำต้องสามารถถูกตรวจสอบและเปลี่ยนโดยมวลชน เราไม่ต้องการแกนนำที่แต่งตั้งตนเองอย่างถาวรและพาเราไปเดินตามผู้ใหญ่ทาง การเมืองในอนาคต

ขบวน การเสรีไทยควรจะพึ่งตนเองโดยเก็บค่าสมาชิกหรือเรี่ยไรเงินกันเองในระดับราก หญ้า ทั้งนี้เพื่อให้อิสระจากนายทุนทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นทักษิณหรือคนอื่น แกนนำเสรีไทยจะทำหรือไม่? ผมหวังว่าจะทำ 

นอก จากจุดยืนอันดีเลิศในแถลงการณ์ฉบับแรกของขบวนการ เสรีไทยจะต้องประกาศอย่างชัดเจนว่ามีเป้าหมายในการปลดปล่อยนักโทษการเมือง ทุกคน รวมถึงนักโทษ 112 และควรจะมีจุดยืนเพื่อยกเลิกกฎหมาย 112 และการลดบทบาททหารในการเมืองอีกด้วย

เป็น เรื่องเร่งด่วนอีกด้วยที่เสรีไทยต้องรวบรวมรายชื่อคนที่มีชื่อในการเคลื่อน ไหว ที่พร้อมจะประกาศตัวเป็นสมาชิกกับสาธารณะ องค์กรจะได้ดูมีน้ำหนักมากขึ้น

ใน เรื่องการเคลื่อนไหวนอกประเทศ คนที่ยังมีความหวังเกี่ยวกับสหประชาชาติ หรือ คนที่หวังว่าประเทศประชาธิปไตยจะมาช่วยเรา เขาก็มีสิทธิเคลื่อนไหวต่อไป แต่ในความเห็นส่วนตัว ผมมองว่าเราควรเลิกความหวังดังกล่าว

ภารกิจ สำคัญของคนไทยที่อยู่ต่างประเทศในสายตาผม คือการเสนอความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยกับสื่อมวลชนสากล และ การคัดค้านคำโกหกของคณะเผด็จการ นอกจากนี้เราคงต้องช่วยกันประสานการเคลื่อนไหวระหว่างคนที่อยู่ต่างประเทศ กับคนจำนวนมากที่อยู่ภายในประเทศไทย

ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมและเพื่อนๆ มิตรสหายจะสามารถเข้าร่วมกับขบวนการเสรีไทย ด้วยจิตใจบริสุทธิ์ในอนาคตอันใกล้  

(ที่มา)

คนไทยรักเสรีภาพในเนเธอร์แลนด์ต้านเผด็จการ เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

คนไทยรักเสรีภาพในเนเธอร์แลนด์ต้านเผด็จการ เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์


 

คนไทยรักเสรีภาพในเนเธอร์แลนด์ต้านเผด็จการ เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ วิดีโอที่ทำขึ้นโดยคนไทยในเนเธอร์แลนด์
https://www.youtube.com/watch?v=8pnLRBXfcTQ#t=77 

คนไทยรักประชาธิปไตยในยุโรปจัดกิจกรรมสนับสนุนการจัดตั้งองค์กรเสรีไทย 24 มิถุนายน 2557

คนไทยรักประชาธิปไตยในยุโรปจัดกิจกรรมสนับสนุนการจัดตั้งองค์กรเสรีไทย 24 มิถุนายน 2557




 

 

สนับสนุนเสรีไทยจากยุโรป
https://www.youtube.com/watch?feature=youtu.be&v=raz-t9t6uzs&app=desktop

ประกาศจัดตั้งองค์กรเสรีไทย เพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ประกาศ ณ เวลาย่ำรุ่ง วันอังคารที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๗

ประกาศจัดตั้งองค์กรเสรีไทย เพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ประกาศ ณ เวลาย่ำรุ่ง วันอังคารที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๗

 

แถลงการองค์กรเสรีไทย ฉบับที่ 1 
https://www.youtube.com/watch?v=RzpAzOKkGvg

The FreeThai Declaration No.1
https://www.youtube.com/watch?v=jpakAOn0q7I 

ตั้ง 'เสรีไทย' 2557 ต้านรัฐประหารฟื้นประชาธิปไตย – จารุพงศ์นั่งเลขาธิการ
http://www.prachatai.com/journal/2014/06/54204 

แถลงการณ์ฉบับที่ ๑
องค์กรเสรีไทย เพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย
ประกาศ ณ เวลาย่ำรุ่ง วันอังคารที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๗
โดย นายจารุพงษ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการ

จม."จอม เพชรประดับ"ยุติบทบาทสื่อในไทย!

จม."จอม เพชรประดับ"ยุติบทบาทสื่อในไทย!


 
สัมภาษณ์พิเศษ เลขาธิการองค์การเสรีไทย
https://www.youtube.com/watch?v=6bIcXpzoKZk

พลิกปูม ประวัติชีวิต “จอม เพชรประดับ” จากลูกหม้อไอทีวี สู่พิธีกรชื่อดังช่องเอ็นบีที – วอยซ์ทีวี – สทท. กับข้อกล่าวหา “อิงแอบคนเสื้อแดง” ?
http://www.khonthaiuk.org/forum/index.php?topic=28379.0 


จม."จอม เพชรประดับ"ยุติบทบาทสื่อในไทย ก่อนโผล่สัมภาษณ์ "จารุพงศ์"

"...ข้าพเจ้า..นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ขอยุติบทบาท การทำหน้าที่สื่อสารมวลชนในประเทศไทย ตั้งแต่บัดนี้ จนกว่า คนไทยทั้่งประเทศจะได้รับสิทธิเสรีภาพกลับคืนมา และจนกว่า ประเทศไทย จะกลับมาปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง อีกครั้ง.."

หมายเหตุ "สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org" : เป็นจดหมายเปิดผนึกของนายจอม เพชรประดับ พิธีกรรายการข่าวชื่อดังเมืองไทย ที่ประกาศยุติการทำหน้าที่สื่อมวลชนในประเทศ อย่างเป็นทางการ ก่อนจะปรากฎตัวสัมภาษณ์พิเศษ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการองค์กรเสรีไทย เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา

หลอกตัวเองหลอกคนอื่นสบายใจ!

หลอกตัวเองหลอกคนอื่นสบายใจ!





ร่างรัฐธรรมนูญการปกครองชั่วคราว พ.ศ.2557 ของคณะสัตว์ชั่วใกล้เสร็จสิ้นแล้ว!

ร่างรัฐธรรมนูญการปกครองชั่วคราว พ.ศ.2557 ของคณะสัตว์ชั่วใกล้เสร็จสิ้นแล้ว!
  

   
"วินธัย"โฆษก คสช.แย้มรายละเอียดธรรมนูญชั่วคราวสัปดาห์นี้ ชี้"ประยุทธ์"แจงเอง คาดทหารพรึ่บสนช.เกินครึ่ง


ทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงการยกร่างธรรมนูญชั่วคราวรวมถึงเมื่อใด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคสช.จะเป็นผู้ชี้แจงในส่วนนี้ด้วยตนเองว่า ภายในสัปดาห์นี้น่าจะมีรายละเอียดออกมา


ผู้สื่อข่าวถามว่าคสช.เน้นปฏิรูป เศรษฐกิจ การเมืองและสังคมแต่ไม่การนำเสนอข่าวเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญและสภานิติบัญญัติเท่าใดนัก พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนเป็นการปฏิรูประยะแรกจึงยังไม่มีการดำเนินการนำเสนอข่าวเรื่องร่างรัฐธรรมนูญและสภานิติบัญญัติ โดยในระยะที่ 2 ข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดระเบียบเข้าสู่การปฏิรูปที่เป็นรูปแบบแต่ในขณะนี้เรา ยังไม่มีข้อมูลในส่วนดังกล่าวจึงไม่ได้มีการออกมาชี้แจง

คาดทหารนั่งสนช.ครึ่งสภาจาก 200 คน

กระแสต้าน′น้องตั๊น′กล่าวนำปฏิญาณตนยังแรง ล่าสุดมีโครงการรณรงค์คัดค้านในโลกออนไลน์

กระแสต้าน′น้องตั๊น′กล่าวนำปฏิญาณตนยังแรง ล่าสุดมีโครงการรณรงค์คัดค้านในโลกออนไลน์


 

ขอแสดงความนับถือในความกล้ายืนหยัดในวิชาชีพของอาจารย์ "รัฐศาสตร์ จุฬาฯ" ทั้ง 2 ท่านนี้ค่ะ ที่ท่านกล้าประกาศเจตนา โดยการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า ไม่เข้าร่วม พิธีรับปริญญากับ "ตั๊น" จิตภัสร์ กฤษดากร

(ที่มา)

เสวนาหนึ่งเดือนหลังรัฐประหาร: สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย

เสวนาหนึ่งเดือนหลังรัฐประหาร: สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย



 
 
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนร้องคสช.ยกเลิกการใช้กฏอัยการศึกทั่ว ประเทศ, ยกเลิกการประกาศห้ามชุมนุมและการดำเนินคดีในศาลทหาร ด้านน.พ.นิรันดร์ จากกสม. ติงใช้กฎอัยการศึกเป็น ‘ยาแรง’ ไม่อาจนำสังคมสู่การปรองดองได้ 
23 มิ.ย. 2557 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ร่วมกับคณะกรรมการนิติศาสตร์สากล และสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว 'หนึ่งเดือนหลังรัฐประหาร : สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย' (One Month after the Coup d'etat: The State of Human Rights in Thailand

งานแถลงข่าวครั้งนี้มี Mr.Sam Zarifi ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก คณะกรรมการนิติศาสตร์สากล น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) และน.ส.เยาวลักษณ์ อนุพันธ์ ตัวแทนจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ร่วมแถลง ณ สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย

น.พ.นิรันดร์ เปิดเผยว่า ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา กสม. ยังปฏิบัติหน้าที่ในฐานะองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้มีประกาศยุบ กสม. จึงยังคงปฏิบัติหน้าที่โดยมี พ.ร.บ.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2542 รองรับ และมีพันธะกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่ง กสม. มีมติให้เรื่องร้องเรียนภายหลังการรัฐประหารอยู่ในความดูแลของคณะอนุกรรมการ ด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

ทั้งนี้ เรื่องร้องเรียนที่อยู่ในความดูแลของคณะอนุกรรมการ แบ่งได้เป็น 4 เรื่อง คือ 

1. กลุ่มบุคคลที่ถูกควบคุมตัวและดำเนินคดีเนื่องจากขัดคำสั่ง คสช. และส่วนหนึ่งไม่มารายงานตัว ซึ่ง คสช. มีอำนาจควบคุมตัวโดยไม่ต้องแจ้งข้อกล่าวหาเป็นเวลา 7 วัน เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูล ในกรณีที่มีปัญหา คือญาติไม่ทราบสถานที่ควบคุมตัวและไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม และบางคนถูกควบคุมตัวมากกว่า 7 วัน เช่น กรณี น.ส.กริชสุดา คุณะเสน ที่ถูกจับที่ จ.ชลบุรี

เก็บตกวางดอกไม้รำลึก 24 มิถุนาปีที่ 82 - จนท.ล้อมรั้วหมุดคณะราษฎร

เก็บตกวางดอกไม้รำลึก 24 มิถุนาปีที่ 82 - จนท.ล้อมรั้วหมุดคณะราษฎร


 


กฤช เหลือลมัย ลอยฝันขึ้นฟ้า ส่งความปรารถนาไปหาคณะราษฎร  

ซะการีย์ยา อมตยา อ่านบทกวีในงาน "ลอยฝันขึ้นฟ้า ส่งความปรารถนาไปหาคณะราษฎร"
https://www.youtube.com/watch?v=M-G1UuvVaeY 


06.00 น. ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ให้ประชาชนที่จะเข้าไปทำกิจกรรมที่หมุดคณะราษฎร ลงชื่อไว้ในสมุดบันทึกเพื่อเป็นหลักฐาน

06.10 น. ประชาชนเริ่มทยอยวางดอกไม้ที่หมุดคณะราษฎร บรรยากาศเป็นไปด้วยความสงบ

กฤช เหลือลมัย อ่านบทกวีในงาน "ลอยฝันขึ้นฟ้า ส่งความปรารถนาไปหาคณะราษฎร"ซะการีย์ยา อมตยา อ่านบทกวีในงาน "ลอยฝันขึ้นฟ้า ส่งความปรารถนาไปหาคณะราษฎร"

07.15 น. ผู้ทำกิจกรรมรำลึกวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง ได้ปล่อยลูกโป่งและผูกข้อความบันทึกถึงคณะราษฎรที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

07.40 น. หลังจากนั้นผู้ทำกิจกรรมรำลึกวันเปลี่ยนแปลงการปกครองได้แยกย้ายกลับ โดยมีผู้ทำกิจกรรมบางรายได้ไปรับประทานอาหารเช้าที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งใกล้ กับบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และพบ พล.ต.ต.อำนวย และตำรวจติดตาม ซึ่งเลิกจากการดูแลสถานการณ์มานั่งรับประทานอาหารเช้าและกาแฟเช่นกัน โดยทั้งกลุ่ม พล.ต.ต.อำนวย และผู้ร่วมกิจกรรมได้นั่งแยกโต๊ะกัน โดย พล.ต.ต.อำนวย สั่งกาแฟและไข่กระทะมารับประทาน มีบางช่วงที่ พล.ต.ต.อำนวย อ่านสมาร์ทโฟนระหว่างรับประทานอาหารเช้าด้วย

ทั้งนี้มีผู้ได้ยิน พล.ต.ต.อำนวย กล่าวหลังรับประทานอาหารเช้าว่า "กินกาแฟยังไม่มีความสุขเลย" จากนั้นทั้งสองกลุ่มได้แยกย้ายเดินทางกลับ

(ที่มา)

สถิติการเรียก จับกุม ปล่อยตัว ดำเนินคดี กับบุคคลหลังการรัฐประหาร รวบรวมในสัปดาห์ที่สี่ เดือนมิถุนายน 2557

สถิติการเรียก จับกุม ปล่อยตัว ดำเนินคดี กับบุคคลหลังการรัฐประหาร รวบรวมในสัปดาห์ที่สี่ เดือนมิถุนายน 2557

 


 
 
ผู้ช่วยเหลือคดี–บันทึกประวัติศาสตร์ ‘ความทุกข์’ ยุครัฐประหาร 
http://www.prachatai.com/journal/2014/06/54263

“เราก็พยายามปกป้องตัวเอง เคยมีหนังสือถึง คสช.ว่าการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนไม่ถือเป็นการสนับสนุน หรือช่วยคนผิดกระทำความผิด คุณจะมองว่าเราสนับสนุนไม่ได้ เราเพียงใช้สิทธิ ใช้วิชาชีพ ใช้ความเป็นมนุษย์ในการช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ประชาชน” วิญญัติ ชาติมนตรี หนึ่งในกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน  (กนส.) กล่าว 


iLaw

สถิติการเรียก จับกุม ปล่อยตัว ดำเนินคดี กับบุคคลหลังการรัฐประหาร รวบรวมในสัปดาห์ที่สี่ เดือนมิถุนายน 2557

จำนวนคนถูกประกาศเรียกทั้งหมด 515 คน ปล่อยตัวแล้วอย่างน้อย 288 คน (จำนวนคนถูกจับกุมทั้งหมด 201 คน ปล่อยตัวแล้ว อย่างน้อย 153)


ขณะที่โฆษกคสช.ให้สัมภาษณ์ว่าตอนนี้ ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในพื้นที่พิเศษแล้ว ซึ่งยังต้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไป

จำนวนคนถูกดำเนินคดีอย่างน้อย 55 คน แบ่งเป็นคนที่ต้องขึ้นศาลทหาร 47 คน คนที่ต้องขึ้่นศาลพลเรือน 8 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ (112) 6 คน

ดูสถิติรอบอาทิตย์ที่สี่ ของเดือนมิถุนายน 2557 ทั้งหมด ที่ 

http://ilaw.or.th/node/3153 

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557

สี่นิยายเรื่อง ๒๔๗๕

สี่นิยายเรื่อง ๒๔๗๕

 

https://turnleftthai.files.wordpress.com/2014/06/2475-e0b8a3e0b8b2e0b8a9e0b88ee0b8a3.jpg 
โดย ใจ อึ๊งภากรณ์


1. การปฏิวัติ ๒๔๗๕ เป็นการ ชิงสุกก่อนห่าม” 

พวกที่เชื่อนิยายนี้มองว่าประชาชนไทยไม่พร้อมที่จะมีประชาธิปไตย ประยุทธ์กับสลิ่มปฏิกูลก็คงมองแบบนี้เช่นกัน แนวคิดนี้เริ่มต้นจากความเชื่อว่าประชาชนธรรมดาไร้การศึกษาและโง่ แน่นอนผู้ที่ตั้งข้อกล่าวหาดังกล่าวถือว่าตนเองเป็นผู้ที่ฉลาดกว่าพวกคนชั้น ต่ำทั้งหลายเสมอ และเรามักจะได้ยินคำกล่าวหาจากสำนักนี้ว่าสาเหตุที่ระบบประชาธิปไตยไทยใน ปัจจุบันมีการทุจริตซื้อขายเสียงก็เพราะคนยากคนจนขาดการศึกษา แต่แท้ที่จริง การศึกษากับความฉลาดไม่ใช่สิ่งเดียวกัน และการทุจริตกับการซื้อเสียงเป็นสิ่งที่นักการเมืองไทยทุกพรรคเป็นผู้ริ เริ่มทำกันเอง หลัง ๒๔๗๕

ความจริงแล้วถ้าเราพิจารณาการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองไปสู่ระบบรัฐ ธรรมนูญ ในปี ๒๔๗๕แทนที่จะยังไม่ถึงยุคสุกงอม ต้องถือว่าไทยล้าหลังประเทศอื่นพอสมควรเพราะแม้แต่ประเทศจีนก็ปฏิวัติยกเลิก ระบบจักรพรรดิไปแล้ว 21 ปีก่อนการปฏิวัติในไทย

เหล่าประชาชนไทยในยุคก่อน ๒๔๗๕ เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เพราะก่อนหน้านั้นมีการตีพิมพ์บทความและเสนอฎีกาความเห็นจากประชาชนคนสามัญ มากมาย โดยเฉพาะในเรื่องของวิกฤตเศรษฐกิจทุนนิยมที่มีผลกระทบต่อชีวิตประชาชนในสมัย นั้นและความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลกษัตริย์ในการแก้วิกฤตดังกล่าว

ลอยฝันขึ้นฟ้า ส่งความปรารถนาไปหาระบอบประชาธิปไตย ณ หมุดคณะราษฎร ย่ำรุ่ง 24 มิ.ย.

ลอยฝันขึ้นฟ้า ส่งความปรารถนาไปหาระบอบประชาธิปไตย ณ หมุดคณะราษฎร ย่ำรุ่ง 24 มิ.ย.



 

22 มิ.ย.2557 วาด รวี และ พรรคกวีมันสูญ นัดหมาย ณ หมุดคณะราษฎร อ่านบทกวี วางดอกไม้ เขียนความในใจใส่แผ่นกระดาษ ไม่แสดงสัญลักษณ์ต่อต้านเพื่อแสดงความระลึกถึงคุณูปการวันเปลี่ยนแปลงการ ปกครองครบรอบ 82 ปี ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า หน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เน้นความสงบ ย้ำไม่แสดงสัญลักษณ์ต่อต้านการรัฐประหาร


๐๐๐๐

ประกาศมันสูญ ฉบับที่ 1
ลอยฝันขึ้นฟ้า ส่งความปรารถนาไปหาคณะราษฎร

เรื่อง ขอเชิญร่วมวางดอกไม้ที่หมุดคณะราษฎร เช้าวันที่ 24 มิถุนายน เวลา 6.00 น.

เรียนประชาชนผู้เชื่อมั่นและศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยทุกท่าน เนื่องจาก วันที่ 24 มิถุนายนที่กำลังมาถึงนี้เป็นการเวียนมาถึงวันคล้ายวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง ก่อตั้งระบอบประชาธิปไตยของไทยอีกวาระหนึ่ง พรรคกวีมันสูญจะวางดอกไม้และอ่านบทกวีเพื่อระลึกถึงคณะราษฎรและการก่อตั้ง ระบอบประชาธิปไตย ที่หมุดคณะราษฎร ลานพระบรมรูปทรงม้า บริเวณหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม

จึงขอเรียนเชิญประชาชนผู้สนใจ ร่วมวางดอกไม้ และส่งความคิดถึงไปยังคณะราษฎรในกิจกรรมที่เราจะจัดร่วมกัน

อนึ่ง ขอแจ้งให้ทราบว่ากิจกรรมของเราจะมีลักษณะดังนี้

ประการแรก เป็นไปโดยสงบ และคาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมง

ประการที่สอง จุดมุ่งหมายเพื่อรำลึกถึงผู้ก่อตั้งประชาธิปไตยผู้ล่วงลับซึ่งมีคุณูปการต่อสังคมไทยอเนกประการ

ประการที่สาม เพื่อผลสำเร็จของจุดหมายสองประการแรก จะไม่มีการแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านหรือแสดงป้ายประท้วงหรือประกอบกิจกรรมต่อต้านใด ๆ ทั้งสิ้น

จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันและเรียนเชิญมาด้วยความเคารพ ทั้งนี้ ในการร่วมกิจกรรม ขอให้ผู้เข้าร่วมเตรียมตัวดังต่อไปนี้

1.นำดอกไม้ที่สวยที่สุดมาด้วย

2.ไม่แสดงสัญลักษณ์ต่อต้านหรือมีสัญลักษณ์ต่อต้าน

3.ให้เขียนความในใจใส่ในกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ไม่เกินฝ่ามือ นำติดตัวมาด้วย

4.เงินยี่สิบบาท (ถ้ามี)

ขอแสดงความนับถือ
วาด รวี
ประมุขพรรคมันสูญคนที่ 1
22 มิถุนายน 2557

(ที่มา)

ประกาศคณะราษฎร ฉบับที่ 1

ประกาศคณะราษฎร ฉบับที่ 1



 
ประกาศคณะราษฎร ฉบับที่ 1 พร้อมภาพประกอบ
https://www.youtube.com/watch?v=q2PbgE5K2-0 

21 3 54 ย้อนรอยรัฐประหารไทย ตอน1 ปฎิวัติ 2475
https://www.youtube.com/watch?v=HE0SburUIy4 

เพลงวันชาติ 24 มิถุนายน
https://www.youtube.com/watch?v=yt0OLJH9jwY&feature=kp 

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พวกไม่รู้จักใช้สมอง! ออก "คำสั่ง" เป็นอย่างเดียว

เตือน!! กฎหมายห้ามแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี - See more at: http://www.rsutv.tv/index.php/detail/index/4873#sthash.EyPjJtmY.dpuf
พวกไม่รู้จักใช้สมอง! ออก "คำสั่ง" เป็นอย่างเดียว


กฤษชนุ น้อยญ์ยะ's photo.
เตือน!! กฎหมายห้ามแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี 
http://www.rsutv.tv/index.php/detail/index/4873


วัตถุประสงค์ของการแสดงออกทางสัญลักษณ์ ก็คือ การยับยั้งชั่งใจ เพื่อหลีกเลี่ยงการแสดงออกโดยใช้กำลังทางกายภาพ ครับ

หากการใช้กำลังทางกายภาพ (เช่น ปาระเบิด วางเพลิง ฯลฯ) เป็นความผิดมีโทษสถานเดียวกับ การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ (เช่น ชูนิ้ว กินอาหา
ร ฉีกกระดาษ ฯลฯ) แล้ว เช่นนี้ ไหน ๆ ก็ถูกประกาศว่ามีความผิดเท่ากันแล้ว การยับยั้งชั่งใจ ก็คงหมดสิ้นลงครับ เป็นการเปิดประตูเรียกแขก ให้หันมาใช้กำลังทางกายภาพในการแสดงออกไม่เห็นด้วยกับการก่อกบฏรัฐประหาร น่ะครับ

สมัยก่อน เมื่อปี ๒๔๙๒ อ.ปรีดี พนมยงค์ ก็ใช้วิธีแสดงออกโดยกำลังทางกายภาพ สมัยนั้นก็มีการบุกพระบรมมหาราชวัง ระเบิดประตูวัง ยิงกันนัว ๆ ในการต่อต้านรัฐประหาร เหล่านี้ ปัจจุบันผู้คนหลีกเลี่ยง หันมาแสดงออกทางสัญลักษณ์ ก็ยังถูกห้ามและบอกว่า การใช้สัญลักษณ์แสดงออกโดยสันติ มีความผิดเท่ากับการใช้กำลังอาวุธ!


by:พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล