ทำความรู้จักการเมือง "ซิมบับเว"

ทำความรู้จักการเมือง "ซิมบับเว"

จากข่าวคุณนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีในรัฐบาล "ปู2" ถูกแบล๊กลิสของสหรัฐอมริกา ในข้อกล่าวหาว่าไปพัวพันกับการทำธุรกิจกับภรรยาของประธาธิบดีมูกาเบ้ ประเทศซิบบับเว ส่งผลให้สังคมเริ่มให้ความสนใจในการเมืองของประเทศนี้ กองบรรณาธิการเลี้ยวซ้าย จึงนำบทความเก่าเมื่อปี 2551 ที่เป็นช่วงการต่อสู้ที่สำคัญของประชาชนซิมบับเว่ กับอำนาจเผด็จการมูกาเบ้ เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้มีความเข้าใจในการเมืองของประเทศซิมบับเวมากขึ้น

  

โรเบิร์ต มูกาเบ้ ประธานาธิบดีซิมบับเว้

                                                       

การปฏิวัติจากชนชั้นล่าง มีผลคุกคามต่ออำนาจครอบงำประเทศซิมบับเว ของประธานาธิบดี มูกาเบ้

โดย Ken Olende
แปลโดย ครรชิต พัฒนโภคะ
จากเวปไซต์ www.socialistworker.co.uk
เผยแพร่ครั้งแรกใน นสพ.เลี้ยวซ้าย พ.ค. 51

มองวิกฤติการเลือกตั้งในซิมบับเว

ตามที่ สนพ.เราเคยให้ข่าวไว้  ปรากฏว่าประธานาธิบดี โรเบิร์ต  มูกาเบ้  ได้แพ้คะแนนอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้ง ทั้งในตำแหน่งประธานาธิบดี และจำนวนสมาชิกสภา

จนขณะนี้ ผลเป็นทางการก็ยังประกาศออกมาอย่างเชื่องช้า ทางการพยายามให้แน่ใจว่าข่าวในทางที่จะแพ้ของพรรคซานู พี-เอฟ ที่ปกครองอยู่ จะออกมาพร้อมๆ กับข่าวในทางที่จะชนะด้วย

แต่ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นกำลังถูกนำเสนอจากแหล่งข่าวภายนอกที่ไม่ใช่เป็น ของทางการ  และนี่ยืนยันว่าอำนาจของมูกาเบ้ได้ถดถอยลงอย่างมาก  อย่างน้อยตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลได้สูญเสียไปแล้ว ๖ ที่นั่ง

ผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งอิสระเชื่อว่า มอร์แกน สวากิไร ผู้นำฝ่ายค้านจากองค์กรเอ็มดีซี เพื่อประชาธิปไตย จะชนะคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยได้ร้อยละ ๕๕ ( ๕๐, ๓ ตัวเลขจาก รอยเตอร์ )ขณะที่ มูกาเบ้ได้ร้อยละ ๓๖ ( ๔๓, ๘ ) นี่น่าจะไม่จำเป็นต้องตรวจสอบความชอบธรรมใดๆอีก

มูกาเบ้ แก้ไขผลการเลือกตั้งของซิมบับเว ในปี ๒๐๐๒ และปี ๒๐๐๕ แต่ครั้งนี้ตัวเลขแตกต่างมากเกินกว่าจะจัดการในเรื่องเอกสารได้อีก

เทนได บิจิ เลขาธิการของเอ็มดีซี ได้ให้ข้อสังเกตว่า พรรคสามารถได้คะแนนเลือกตั้งในชนบทมากกว่าในเมือง

นี่ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของฝ่ายค้าน ซึ่งในอดีตเน้นแต่คะแนนเลือกตั้งในเมือง

คะแนนจัดตั้ง

พรรค ซานู-พีเอฟ เคยได้รับการสนับสนุนจากพื้นที่ในชนบทเพื่อเป็นคะแนนเสียงจัดตั้ง และจากคนโชนา ซึ่งเป็นฐานเสียงของ มูกาเบ้ แต่กลยุทธ์กลับล้มเหลวในครั้งนี้  แม้ในพื้นที่ใจกลางที่เคยเป็นฐานเสียงเอง

ผู้คนในซิมบับเวได้เอาชนะความกลัวและการกดขี่ข่มเหงเพื่อที่จะบอกเลิกกับ มูกาเบ้  การต่อสู้จากเบื้องล่างได้รวมศูนย์เพื่อสร้างความมั่นใจในการที่จะสนับสนุน พรรคอื่นเพื่อเป็นทางเลือก

ไม่เพียงแต่จะไม่ต้องการการแทรกแซงจากตะวันตกเท่านั้น และการแทรกแซงที่เคยมียังกลับดึงให้พลังภาคประชาชนถดถอยลงอีกด้วย

ยุทธวิธีการปฏิวัติสีส้มที่เริ่มที่ยูเครน และได้รับการยกย่องจากรัฐบาลชาติตะวันตก เอ็นจีโอต่างๆ และสื่อนักวิจารณ์นั้น ที่ขึ้นอยู่กับการวางเฉยเป็นส่วนมากของมวลชนในการที่จะเข้ามามีส่วนร่วม

แน่นอนว่ามันไม่เป็นการให้กำลังใจในการประท้วง ต่อสู้ และการหยุดงาน  ซึ่งอาจจำเป็นใน ซิมบับเว เพื่อทำให้ มูกาเบ้ ยอมรับในความพ่ายแพ้

แม้ นสพ.ไฟแนนเชี่ยลไทม์  ก็ยอมรับว่าไม่มีใครที่อยู่นอก ซิมบับเว จะให้ความเชื่อถือในภาพความถ่อมตน การยอมรับของมูกาเบ้  ไฟแนนเชียลไทม์ เพิ่มเติมว่า ที่พึ่งสุดท้ายของผู้คนใน ซิมบับเว อาจไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากออกมาบนถนนเพื่อปกป้องประเทศของเขาจากการทำรัฐประหารที่น่าขยะแขยง

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา มูกาเบ้ได้จัดประชุมฉุกเฉินกับหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยในเรื่องที่ว่า จะทำอย่างไรที่เขาจะยังคงอำนาจเอาไว้ได้

แต่ปรากฏว่าบรรดาผู้สนับสนุนของเขาได้แบ่งออกเป็นฝักฝ่าย ต่างพิจารณาว่าจะหาทางออกกันอย่างไร และขณะนี้ก็พยายามจะถ่วงเวลาออกไป

มีความเหมือนกันอย่างชัดเจนในกรณีนี้ กับการเลือกตั้งในเคนย่า เมื่อ ๓ เดือนที่แล้ว ที่เราเห็น ไรล่า โอดิงก้า ผู้นำฝ่ายค้าน ออกมาท้าทาย มะวาอิ กีวากิ ประธานาธิบดีของประเทศ

ในกรณีนั้น ฝ่ายค้านได้ก้าวออกมาอย่างแข็งขันกว่ามาก ป่าวประกาศชัยชนะของเขา และเรียกร้องผู้สนับสนุนให้พากันออกมาตามท้องถนนเพื่อแสดงพลัง

แต่พวกเขาไม่ได้วางยุทธวิธีไว้ เพื่อป้องกันหรือตอบโต้ เมื่อฝ่ายรัฐได้กระทำการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง ประชาชนของซิมบับเวต้องเตรียมตัวที่จะร่วมกัน "หยุดงาน" และออกมาตามท้องถนน เพื่อปกป้องผลการเลือกตั้ง

oooooo

สัมภาษณ์สหาย Mike Sambo (ISO Zimbabwe)

เผยแพร่ครั้งแรกใน นสพ.เลี้ยวซ้าย สิงหาคม 51

เกิดอะไรขึ้นในซิมบับเว่ หลังจากเจอทั้งวิฤตทางเศรษฐกิจที่ถือว่ารุนแรงที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังเผชิญกับวิกฤตการเมือง เมื่อมวลชนออกมาขับไล่รัฐบาลเผด็จการมูกาเบ้ ท่ามกลางการเลือกตั้งที่พรรคฝ่ายค้านเสรีนิยม กำลังจะชนะการเลือกตั้ง และการต่อสู้จากการถูกปราบปรามโดยรัฐบาลของภาคประชาชน สถานการณ์เช่นว่านี้พรรคฝ่ายซ้ายปฏิวัติในซิมบับเว่ มีท่าทีอย่างไร
 
เลี้ยวซ้าย?  หลังจากที่ประธานาธิบดี มูกาเบ้ใช้ความรุนแรงในการเลือกตั้งจนผู้แทนจากพรรคฝ่ายค้านจาก MDC ต้องถอนตัว องค์กรสังคมนิยมของคุณจะเดินหน้าอย่างไร

Mike ในช่วงการเลือกตั้งเรามีจุดยืนสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านเพราะเราต้องการล้มมูกา เบ้ แต่ในขณะเดียวกันเราก็วิจารณ์พรรค MDC ว่าใช้นโยบายแนวเสรีนิยม พรรค MDC นี้ เริ่มต้นจากการเป็นพรรคที่รณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ซึ่งมีฐานสนับสนุนในขบวนการแรงงานแต่ตอนนี้ MDC แปรธาตุไปเป็นพรรคของนายทุนอย่างเดียว เราเห็นด้วยว่า MDC ต้องถอนตัวออกจากการเลือกตั้ง  เพราะมูกาเบ้กำลังจะโกงการเลือกตั้งเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเอง  วิธีการที่จะล้มมูกาเบ้ได้  คือการเคลื่อนไหวของมวลชนดังนั้น ISO จึงรวมตัวกับองค์กรอื่นๆในประชาสังคมเพื่อผลักดันการเคลื่อนไหวดังกล่าว  แต่ปัญหาคือ MDC มีแนวโน้มต้องการประนีประนอมกับมูกาเบ้  โดยตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือไม่ ก็ไปขอความช่วยเหลือจากประเทศจักรวรรดินิยม ซึ่งในความเห็นเรามันไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง

เลี้ยวซ้าย?  มีบางคนเสนอว่าสหประชาชาติหรือประเทศรอบข้างควรจะส่งกองทัพเข้าไปเพื่อคุมการเลือกตั้งใหม่ คุณมีความเห็นอย่างไร  
 

Mike เราคัดค้านการใช้กำลังทหารจากภายนอก เพราะประเทศจักรวรรดินิยมมันสร้างความเสียหายมามากพอแล้ว  แม้แต่เรื่องแซงชั่นเราก็ไม่เห็นด้วยเพราะว่ามันมีผลกระทบอย่างร้ายแรงกับคน จนไม่ได้มีผลกระทบกับคนในรัฐบาลเลย พวกรัฐมนตรีมันขึ้นเครื่องบินไปซื้ออาหารและของใช้ที่ ดูไบ แต่คนยากจนอดยาก ถ้าจะพูดถึงความช่วยเหลือจากภายนอกเราอยากจะเน้นความสมานฉันท์จากขบวนการแรง งานในประเทศรอบข้างมากกว่า  จริงๆแล้วมูกาเบ้ก็รู้ว่าใกล้หมดเวลาสำหรับเค้าแล้ววิกฤติเศรษฐกิจก็ร้ายแรง ผู้ที่จะล้มมูกาเบ้ได้คือขบวนการเคลื่อนไหวภายในประเทศเท่านั้น

เลี้ยวซ้าย? วิกฤติเศรษฐกิจมีผลต่อการต่อสู้อย่างไร
Mike  เมื่อคนอดอยากมันไม่ได้เป็นเรื่องอัตโนมัติที่เค้าจะลุกขึ้นสู้ และเมื่อคนอดอยากบางครั้งเค้าไม่กล้านัดหยุดงานนี่คือสาเหตุหนึ่งที่ผม เกลียดการใช้แซงชั่นเพราะมันทำให้คนยากจนลง อย่างไรก็ตามเราก็ต้องพยายามระดมมวลชนให้ลุกฮือ อีกปัญหาหนึ่งคือผู้นำแรงงานอยู่ภายใต้อิทธิพลของ MDC และไม่อยากเคลื่อนไหวเท่าไหร่ เดี๋ยวนี้คนงานไม่มีเงินจ่ายค่าบำรุงสหภาพแรงงานสหภาพแรงงานเลยต้องพึ่งพา เงินจาก NGO

เลี้ยวซ้าย? สถานการณ์การทำงานของนักสังคมนิยมในซิมบับเวในขณะนี้เป็นอย่างไร

Mike เดี๋ยวนี้มันยากลำบากมากฝ่ายความมั่นคงของรัฐมันบุกเข้ามาในสำนักงานเราสอง ครั้ง  พยายามจะยึดทุกอย่างและจับเราเราเลยต้องลงทำงานใต้ดิน  แต่ในขณะเดียวกันเราไม่สามารถซ่อนตัวได้ทั้งหมดเพราะต้องมีส่วนร่วมในการ เคลื่อนไหว  นอกจากนี้ วิกฤติเศรษฐกิจทำให้สหายหลายคนต้องอพยพไปประเทศอื่นชั่วคราว

(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.com/2012/01/blog-post_22.html