'ใบตองแห้ง' ออนไลน์: เถื่อนมาก็เถื่อนไป?
ศุกร์ 13 จะออกมาอย่างไร หลายคนคาดการณ์ว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะไม่ให้แก้มาตรา 291 ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ แต่ไม่ยุบพรรคตัดสิทธิ ล้มระบอบรัฐสภา
แต่ไม่ว่าออกมาทางร้าย หรือร้ายแรงที่สุด ผลที่เกิดขึ้นแน่นอนคือ มวลชนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยจะตระหนักว่า ระบอบประชาธิปไตยแบบอำมาตย์กำลังดื้อรั้นรักษาอำนาจโดยไม่คำนึงถึงเหตุผล ความชอบธรรม หรือกฎกติกา โดยถือดีว่ามีอำนาจศาลและอำนาจปืนอยู่ในมือ
เราไม่สามารถรอมชอมกับระบอบประชาธิปไตยแบบอำมาตย์ได้ ทั้งที่ได้พยายามต่อสู้ในกติกาแล้ว
ภายหลังการยุบพรรคไทยรักไทย ยุบพรรคพลังประชาชน จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร มวลชนเสื้อแดงลุกฮือขึ้นสู้ ในเดือนเมษายน 2552 และเมษา-พฤษภา 2553 ความรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นการใช้กำลังทางกายภาพตอบโต้ความรุนแรงที่เป็น นามธรรมของรัฐประหารและศาล ฝ่ายอำมาตย์คิดว่าการยั่วยุให้มวลชนทนไม่ไหวจะเป็นโอกาสให้อ้างความชอบธรรม ใช้กำลังปราบปราม แล้วชาวบ้านโง่ๆ ถูกหลอก ถูกซื้อ ถูกยิงตายซักหลายสิบคนก็คงจะฝ่อไป แต่พวกเขาคิดผิด แม้การยิงหัวไพร่เสื้อแดงจะได้ใจสลิ่ม ผู้ดีชาวกรุง ดารา ไฮโซ แต่ในชนบทอันกว้างใหญ่ ในภาพรวม ในทางสากล พวกเขาพ่ายแพ้ทางการเมือง จนกระทั่งพรรคเพื่อไทยกลับมาได้ชัยชนะล้นหลาม โดยได้รับการสนับสนุนจากนานาประเทศด้วย
ความพยายามก่อรัฐประหารโดยศาลครั้งนี้ ชัดเจนว่าเป็นไปอย่างดันทุรัง ในการรับคำร้องตามมาตรา 68 ซึ่งผิดทั้งแง่กระบวนการและเนื้อหา ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยทั้งที่ไม่มีอำนาจ ใช้อำนาจโดยพลการอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ถามว่าพวกเขาไม่ตระหนักหรือ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากชี้ผิด ยุบพรรค ตัดสิทธิ
สงครามกลางเมืองสิครับ มวลชนจะลุกฮือขึ้นมาตะโกนว่า กูทนไม่ไหวแล้วโว้ย
ในแง่หนึ่งคือการหยั่งเชิงของฝ่ายอำมาตย์ ถ้าประชาชนทนไม่ไหวลุกฮือ มันก็คือโอกาส ที่จะเอากำลังทหารออกมารักษาความสงบ โค่นรัฐบาล แล้วเดินไปตามสูตรอียิปต์บวก ม. 7 ขอรัฐบาลพระราชทาน อย่างที่บิ๊กจิ๋วดักคอ
แต่ในขณะเดียวกัน ฝ่ายอำมาตย์ก็ไม่มั่นใจว่า ถ้าประชาชนทนไม่ไหว แล้วพวกเขา “เอาอยู่” หรือไม่ เป็นสถานการณ์ที่ประเมินยาก แม้แต่ฝ่ายรัฐบาล เพื่อไทย นปช.ก็ยังประเมินไม่ออก ว่าขณะนี้มวลชน “ตาสว่าง” เพียงไร และพร้อมจะสู้ถึงที่สุดแค่ไหน มันจึงเสี่ยงอันตรายอย่างยิ่ง หากไปถึงจุดนั้น
หากไม่กล้าแตกหัก ก็อาจรัฐประหารครึ่งใบ ไม่ยอมให้แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ไม่ยุบพรรคตัดสิทธิ แบบนั้นจะกลับมาสร้างภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกให้รัฐบาลเพื่อไทยและมวลชน เสื้อแดง คือมวลชนโกรธแค้น แต่ไม่รู้จะระบายออกอย่างไร เพราะอีกด้านหนึ่งก็ต้องรักษาอำนาจของรัฐบาล มวลชนไม่สามารถออกมาก่อความไม่สงบ ชุมนุม ปิดถนน ก่อความรุนแรง ที่จะกลายเป็นบั่นทอนเสถียรภาพรัฐบาล ฝ่ายรัฐบาลเอง ก็น่าจะต้องกล้ำกลืนยอมรับคำสั่งศาล ขณะที่มวลชนไม่ยอมรับ และต้องการระบายความแค้น นี่เป็นปัญหาที่จะต้องจัดการให้ดี และต้องเข้าใจการแยกกันเดิน
มวลชนต้องแสดงพลัง เพื่อตอบโต้ฝ่ายอำมาตย์ นี่เป็นสิ่งที่ต้องยืนยัน เพราะถ้าไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ของนักวิชาการและมวลชนมาตั้งแต่ต้น ฝ่ายอำมาตย์ก็คงไม่ลังเลที่จะใช้แผน 1 ฉะนั้นการที่พรรคเพื่อไทยจะบอกให้มวลชนเสื้อแดงยอมรับคำสั่งศาล จึงเป็นเรื่องงี่เง่า แต่แน่นอนว่าสำหรับรัฐบาลอาจต้องเลือกเดินอีกอย่าง เพื่อรักษาฐานอำนาจและพยุงตัวอยู่ในกระแสสาธารณะ ที่คนทั่วไปยังไม่อยากให้แตกหัก ด้านนี้มวลชนก็ต้องเข้าใจรัฐบาลเช่นกัน แต่ไม่จำเป็นต้องบอกว่าเห็นพ้องกัน มวลชนสามารถตอบโต้อย่างเต็มที่ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai3.info/journal/2012/07/41516
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น